ถ้าถามว่าสัตว์บกที่สามารถวิ่งได้เร็วที่สุด แน่นอนว่าหลายคนคงจะนึกออกทันทีว่าเป็นเสือชีตาห์ แต่นี่คือปลาที่ว่ายน้ำเร็วที่สุดในโลก
รูปที่ 1. ปลาเซลฟิชหรือกระโทงร่ม (Sailfish) (อ้างอิง: Animals)
นี่คือปลาเซลฟิช (Sailfish) หรือที่คนไทยเรียกว่า กระโทงร่ม ซึ่งเป็นปลาที่ว่ายน้ำเร็วที่สุดในโลกในระยะทางสั้นๆ แม้ว่าปัญหาในทางปฏิบัติจะทำให้วัดค่าได้ยากมาก ในการทดสอบความเร็วหลายชุดที่แคมป์ตกปลาลองคีย์ (Long Key Fishing Camp) ที่รัฐฟลอริดา ในสหรัฐอเมริกา ที่สามารถระบุว่ามีปลาเซลฟิชตัวหนึ่งสามารถลากเส้นเบ็ดตกปลาออกไป 91 เมตร ใน 3 วินาที ซึ่งเทียบเท่ากับความเร็วคือ 109 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเทียบกับเสือชีต้าแล้วมีความเร็วที่ 96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถูกบันทึกไว้โดยกินเนสส์บุ๊กเวิลด์เรคคอร์ด (Guinness Book of World Records)
แต่ก็มีรายงานจากบีบีซี (BBC) อ้างว่าปลามาร์ลินดำ (Black Marlin) หรือปลากระโทงดำ ซึ่งเป็นปลาในตระกลูเดียวกันกับปลาเซลฟิชนั้นมีความเร็วถึง 131.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากชาวประมงจับปลามาร์ลินดำได้ ว่ากันว่าปลาสามารถลากเส้นเบ็ดตกปลาออกไปที่ความเร็ว 36.5 เมตรต่อวินาที ซึ่งบ่งบอกว่าปลากำลังว่ายน้ำด้วยความเร็วประมาณ 131.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากกินเนสส์บุ๊กเวิลด์เรคคอร์ด ทำให้ปลาเซลฟิชยังคงเป็นปลาที่ว่ายน้ำเร็วที่สุดในโลกอยู่
ปลาเซลฟิชเป็นปลาในตระกลูบิลฟิช (Billfish) หรือที่คนไทยเรียกว่าปลากระโทงหรือปลาใบชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นปลานักล่าที่รวมถึง ปลากระโทงดาบ (Swordfish) ปลาสเปียร์ฟิช (Spearfish) และปลามาร์ลิน (Marlin) ด้วย ซึ่งปลากระโทงเป็นที่รู้จักกันดีจากปากที่ยาวเหมือนหอกแหลมยื่นยาวที่เป็นเอกลักษณ์ ปลากระโทงทุกชนิดเป็นนักล่าและใช้ปากของพวกมันเพื่อล่าและจับเหยื่อ พวกมันยังมีครีบหลังที่โดดเด่น โดยในปลาเซลฟิชจะมีครีบคล้ายใบเรืออันเป็นเอกลักษณ์และครีบหางแบบแยกส่วนช่วยในการระบุตัวตนและเป็นที่มาของชื่อ
รูปที่ 2. ปลาเซลฟิชกระโดดขึ้นเพื่อต่อสู้เมื่อถูกตกได้ (อ้างอิง: Sportfishingmag)
วิธีการจำแนกปลาเซลฟิชนั้นคือ ปลาเซลฟิชสามารถพบได้ในเขตอบอุ่นถึงเขตร้อนทั่วโลก พวกมันมักจะถูกตกได้ในตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา อ่าวเม็กซิโก เปอร์โตริโก เบอร์มิวดา และหมู่เกาะวินด์วาร์ด พวกมันยังอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดียด้วย แต่ก็มีบางตัวที่พบในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นครั้งคราว แม้ว่าปลาเซลฟิชจะรวดเร็ว แต่โดยทั่วไปแล้วพวกมันจะไม่เดินทางไกล โดยส่วนมากพวกมันจะชอบน้ำชายฝั่งที่อบอุ่นและบริเวณล่าสัตว์จะอยู่ใกล้กับพื้นผิวมหาสมุทร
โดยทั่วไปแล้วพวกมันมีความยาวรวมโดยเฉลี่ยประมาณ 2.1 เมตร ตั้งแต่ปลายปากจรดปลายหาง แต่สามารถเติบโตได้ยาวถึง 3 เมตร และสามารถหนักได้ถึง 99 กิโลกรัม ถึงแม้ว่าพวกมันมีขนาดค่อนข้างใหญ่นั้น พวกมันยังว่ายน้ำได้เร็ว ปลาเซลฟิชมีลักษณะเด่นบางประการ เช่น ปากที่เหมือนหอกที่แหลมและยาว แต่สิ่งที่น่าประทับใจและเป็นที่รู้จักมากที่สุดคือครีบหลังขนาดใหญ่เหมือนกับใบเรือเหล่านี้ตลอดความยาวของลำตัว กล่าวอีกนัยหนึ่งครีบหลังใบเรืออาจมีขนาดใหญ่เท่ากับตัวปลา
การศึกษายังแสดงให้เห็นว่าปลาเซลฟิชสามารถกางและหดครีบของมันได้ เมื่อครีบใบเรือหดลง ปลาเซลฟิชสามารถลดแรงต้านได้ ทำให้มีแรงขับและความเร็วมากขึ้น เมื่อครีบหลังใบเรือถูกยกขึ้น พวกมันสามารถเพิ่มแรงในการลากและช้าลงอย่างมาก ปลาเซลฟิชมีรูปแบบสีที่โดดเด่นเช่นกัน ซึ่งช่วยให้พวกมันแตกต่างจากปลากระโทงชนิดอื่นๆ พวกมันมีลำตัวสีน้ำเงินและท้องสีขาวเป็นส่วนใหญ่ มีลายจุดสีฟ้าอ่อนและแถบแนวตั้ง ครีบของพวกมันมักจะเป็นสีน้ำเงินอมดำและสีของพวกมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อพวกมันกระฉับกระเฉงหรือตื่นเต้นเป็นพิเศษ
รูปที่ 3. ปลาเซลฟิชขณะล่าเหยื่อเป็นกลุ่ม (อ้างอิง: Animals)
ปลาเซลฟิชเป็นนักล่าตัวยง ซึ่งเหยื่อทั่วไป เช่น ปลาขนาดใหญ่ หมึก ปูและกุ้ง ปลาเซลฟิชมักจะล่าเป็นกลุ่มเพื่อล้อมและดักจับฝูงปลาซาร์ดีน ซึ่งการล่าได้รับการบันทึกไว้ว่ามีปลาเซลฟิชตั้งแต่ 4 ตัว จนถึงมากถึง 70 ตัว แม้ว่าการล่าจะไม่ได้รับการประสานงานใดๆก็ตาม โดยปลาเซลฟิชมักจะพุ่งเข้าใส่ฝูงปลาซาร์ดีนทีละตัวและใช้ปากแหลมของพวกมันเฉือนและแทงปลาเหล่านั้น จากการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ในการดำเนินการของราชสมาคมบี (Proceedings of the Royal Society B) ปลาเซลฟิชอาจจะจับปลาได้ไม่มากเท่าที่พวกมันต้องการหากพวกมันออกล่าเพียงตัวเดียว โดยขนาดของปลาเซลฟิชนั้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ทำให้พวกมันแทบจะอยู่ด้านบนสุดของห่วงโซ่อาหาร เว้นแต่พวกมันจะถูกล่าโดยสายพันธุ์ที่ใหญ่กว่าสองสามสายพันธุ์ ซึ่งโดยทั่วไปคือ ฉลาม (Sharks) วาฬเพชฌฆาต (Orcas) และปลาอีโต้มอญหรือปลามาฮิ มาฮิ (Mahi Mahi)
ปลาเซลฟิชนั้นมีเนื้อที่เหนียว ดังนั้นพวกมันจึงมีมูลค่าน้อยมากในตลาดอาหารทะเลเชิงพาณิชย์ แต่เนื่องจากความเร็ว ความแข็งแกร่ง และรูปลักษณ์ที่โดดเด่น พวกมันจึงเป็นเป้าหมายยอดนิยมสำหรับกีฬาตกปลา ชาวประมงต้องใช้อุปกรณ์บางชนิดเพื่อลดการบาดเจ็บของปลาเซลฟิช และเกือบทั้งหมดเมื่อจับได้แล้วก็ถูกปล่อยกลับทะเล เฉพาะชาวประมงที่มีใบอนุญาตที่รับรองสายพันธุ์ที่มีการอพยพสูงในมหาสมุทรแอตแลนติก (Atlantic highly migratory species: HMS) ของรัฐบาลกลางเท่านั้น ที่สามารถเลี้ยงพวกมันได้ และต้องมีความยาวอย่างน้อย 1.6 เมตร ตามกฎหมาย
เรย์ โรเชอร์ (Ray Rosher) เป็นชาวประมงมืออาชีพมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1979 และเป็นเจ้าของมิสบริตต์ ชาร์เตอร์ส (Miss Britt Charters) ในไมอามีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 เรย์มีประสบการณ์หลายสิบปีเกี่ยวกับปลาเซลฟิชที่เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1970 เมื่อเขาเคยกินปลาเซลฟิชรมควันที่บ้านคุณปู่ของเขา เขาเล่าว่าคุณปู่ของเขาจดจ่ออยู่กับการจับพวกมันจริงๆและเราก็โตมาด้วยการกินมัน มันส่วนหนึ่งของชีวิตของเรา กิจวัตรประจำวันของเขาก็คือการหาปลาบนเรือลอยน้ำ เรย์กล่าว ในตอนนี้เขาอยากจะบอกว่ากับคนในยุค 80 ว่าผู้คนต้องให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์มากขึ้น โดยใช้ตะขอวงกลม (Circle Hooks) และปล่อยพวกมันหลังจากจับได้
เรย์กล่าวว่าปลาเซลฟิชเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับกีฬาตกปลาเพราะสนุกที่จะไล่ตาม การจับพวกมันมีความท้าทายและเห็นได้ชัดว่าพวกมันสวยงาม มันน่าตื่นเต้นจริงๆถ้าจับพวกมันได้ พวกมันจะกระโดดและต่อสู้อย่างหนัก ซึ่งการตกปลาเชิงพาณิชย์ยังคงเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อประชากรปลาเซลฟิช บางครั้งปลาเซลฟิชก็ถูกจับได้เช่นเดียวกับปลาทูน่าและปลาชนิดอื่นๆ โดยอุปกรณ์จับปลาสำหรับการผลิตอาหารขนาดใหญ่ ซึ่งในสหรัฐอเมริกาได้มีการบังคับห้ามไม่ให้เรือพาณิชย์ทุกลำ เก็บรักษาหรือซื้อปลาเซลฟิช รวมถึงปลาในตระกลูบิลฟิชชนิดอื่นๆทั้งหมดอีกด้วย และหากว่านักตกปลาต้องการที่จะตกปลาเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ จะต้องมีใบอนุญาตในการจับปลาเซลฟิชและพวกเขาจะต้องปล่อยพวกมันกลับสู่ทะเล
อย่างไรก็ตามถ้าคุณจับตัวปลาที่มีเลือดออกหรือโดนฉลามกัดหางหรือบางอย่างและมีขนาดตามที่กฎหมายกำหนดนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องปล่อยพวกมันไป เรย์กล่าวว่า มีจำนวนปลาเซลฟิชมากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ ที่จับได้ถูกปล่อยกลับสู่ทะเล จากประสบการณ์ของเขา กล่าวว่าความพยายามในการอนุรักษ์นั้นได้ผล
อ้างอิง: Animals, Guinnessworldrecords, A-z-animals
Awesome article.
Excellent, what a webpage it is! This weblog gives useful facts
to us, keep it up.