โดยปกติแล้วถ้าเราพูดถึงทวีปยุโรปและทวีปอเมริกานั้น หลายคนคงคิดว่าคงที่ต้องเวลาหลายชั่วโมงในการเดินทางข้ามไปยังอีกทวีป แต่นี่คือสถานที่ที่เราสามารถที่จะได้สัมผัสทวีปทั้งสองไปพร้อมๆกัน
รูปที่ 1. รอยแยกซิลฟรา (อ้างอิง: Traveller)
นี่คือรอยแยกซิลฟรา (Silfra Fissure) เกิดจากการแตกหักแบบเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ซึ่งเป็นสถานที่แห่งเดียวในโลกที่สามารถเห็นการแบ่งของแผ่นเปลือกโลกยูเรเชีย (Eurasian) และอเมริกาเหนือ (North American) เหนือพื้นผิวมหาสมุทร ที่ตั้งอยู่ในทะเลสาบธิงวัลลาวาทน์ (Thingvallavatn) ภายในอุทยานแห่งชาติธิงเวลลิร์ (Thingvellir) ในประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งที่นี่นอกจากจะเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางธรณีวิทยาแล้ว ยังเป็นสถานที่ซึ่งมองเห็นความงามของธรรมชาติได้อย่างงดงามถึงขีดสุด จึงได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก
รอยแยกซิลฟราถูกปกคลุมด้วยน้ำที่ใสสะอาด ที่ใสจนสามารถมองเห็นได้ลึกประมาณ 100 เมตร นั่นเป็นเพราะน้ำมาจากธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull Glacier) ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองในไอซ์แลนด์ ซึ่งอยู่ห่างจากรอยแยกไปทางเหนือประมาณ 50 กิโลเมตร โดยทะเลสาบแห่งนี้ได้รับน้ำที่ละลายจากการกรองผ่านหินลาวาที่มีรูพรุน ซึ่งเป็นผลมาจากการระเบิดของภูเขาไฟที่คิดว่าเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 12,000 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวกรองตามธรรมชาติที่ทำให้น้ำมีคุณสมบัติเหล่านี้
รูปที่ 2. รอยแยกซิลฟรา (อ้างอิง: Theblondeabroad)
ในรอยแยกนี้ได้ก่อตัวเป็นแอ่งน้ำที่ใสสะอาด ทำให้คุณสามารถชื่นชมความงามของธรรมชาตินี้ด้วยการดำน้ำลึกหรือดำน้ำตื้น สถานที่นี้กลายเป็นสถานที่ที่นิยมสำหรับนักดำน้ำจากทั่วทุกมุมโลก โดยรอยแยกซิลฟราจะแบ่งออกเป็นสามจุดดำน้ำคือ ทางเข้าซิลฟรา (Silfra Entrance) วิหารซิลฟรา (Silfra Cathedral) และทะเลสาบซิลฟรา (Silfra Lagoon) ซึ่งในสามส่วนนี้จะมีทิวทัศน์ที่ดีที่สุดอยู่ที่วิหารซิลฟรา
สิ่งที่ดีที่สุดหากคุณจะดำน้ำลึกหรือดำน้ำตื้นในรอยแยกซิลฟราคือไปกับทัวร์พร้อมไกด์ พวกเขาจะนำคุณไปยังจุดที่ดีที่สุดเพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากการดำน้ำ ที่เป็นตั้งตำแหน่งของรอยแยกซิลฟราเป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูด เนื่องจากเป็นรอยแยกที่แบ่งแผ่นเปลือกโลกทั้งสองแผ่น คือ แผ่นเปลือกโลกยูเรเชียและแผ่นอเมริกาเหนือ ทำให้คุณสามารถมีโอกาสได้เห็นและสัมผัสแผ่นเปลือกโลกในทวีปอเมริกาและทวีปยุโรปในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นประสบการณ์ดีอย่างที่ไม่ต้องสงสัย
โดยทั่วไปธรณีวิทยาของไอซ์แลนด์เป็นสวรรค์สำหรับนักธรณีวิทยา เนื่องจากมีการปะทุของภูเขาไฟ หุบเขาลึก และลักษณะทั่วไปของมัน อย่างไรก็ตาม รอยแยกซิลฟราเป็นสถานที่ที่พิเศษยิ่งกว่าเพราะคุณสามารถศึกษาการเปลี่ยนแปลงของแผ่นเปลือกโลกของแผ่นเปลือกโลกสองแผ่นซึ่งกำลังแยกออกจากกันประมาณ 2 เซนติเมตร ในแต่ละปี เรามักจะไม่เห็นผลกระทบใต้น้ำ แต่นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมไอซ์แลนด์จึงเต็มไปด้วยการปะทุของภูเขาไฟ น้ำพุร้อนและแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นปลดปล่อยความตึงเครียดระหว่างแผ่นเปลือกโลก อันที่จริง คำว่าน้ำพุร้อน (Geyser) มาจากคำว่าไกเซอร์ (Geysir) ในภาษาไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นชื่อของน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ น้ำพุร้อนขนาดใหญ่ส่วนใหญ่สงบนิ่งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1916
โดยทั่วไปแล้ว ฤดูกาลที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคือ ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน นั่นคือคุณสามารถไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม เนื่องจากเดือนนี้เป็นช่วงที่อุณหภูมิของน้ำสูงขึ้นทำให้ง่ายต่อการดำน้ำ โดยอุทยานแห่งชาติได้เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤศจิกายน เวลาเปิดทำการคือตั้งแต่ 9.00 น. ถึง 17.00 น. ในฤดูร้อนจะปิดเวลา 19.00 น. ถ้าคุณได้ไปเที่ยวในไอซ์แลนด์ คุณควรไปเยี่ยมชมที่รอยแยกซิลฟรา เพราะไม่ใช่ทุกวันที่คุณจะมีโอกาสได้เห็นรอยแยกที่แบ่งยุโรปออกจากอเมริกา ซึ่งเป็นการไปเยือนสถานที่ที่ไม่เหมือนใครและคุ้มค่าแน่นอน
อ้างอิง: Howlanders, Kidsdiscover
Nice post. I learn something totally new and challenging on websites