นี่คือ “ลิฟต์ฉุกเฉิน”(ไม่ใช้ไฟฟ้า) ใช้ขณะเกิดไฟไหม้

ในปัจจุบันการก่อสร้างที่อยู่อาศัยหรืออาคารสำนักงานต่างๆมักจะสร้างเป็นอาคารสูงเนื่องมีพื้นที่ในการก่อสร้างที่จำกัด แต่ปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันเช่น ไฟไหม้บนอาคารสูง ทำให้ลิฟต์ที่ใช้ไฟฟ้าเป็นข้อห้ามเบื้องต้นในขณะไฟไหม้ ผู้คนส่วนใหญ่จึงต้องใช้บันไดหนีไฟแทน ซึ่งทำให้บางครั้งก็ไม่สะดวกสำหรับผู้สูงอายุหรือเด็ก จึงได้มีแนวคิดที่จะออกแบบลิฟต์ฉุกเฉินที่สามารถใช้ขณะไฟไหม้ได้

นี่คือ ลิฟต์เนริโก (Nerigo Emergency Lift) ลิฟต์ฉุกเฉินที่ไม่ได้ใช้ไฟฟ้าในการทำงาน ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ คอนโด หรือทำงานในอาคารสำนักงานสูงระฟ้า มันถูกออกแบบให้ทำงานเหมือนลิฟต์

ลิฟต์ฉุกเฉินนี้ออกแบบโดยบริษัทเนริโก (Neri-Go) ในประเทศเกาหลีใต้  ซึ่งได้คิดค้นระบบอพยพฉุกเฉินที่เป็นลิฟต์แบบส่วนบุคคล โดยจะสามารถบรรทุกคนทีละหนึ่งหรือสองคน ที่เคลื่อนที่ลงจากชั้นหนึ่งไปยังอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเราสามารถติดตั้งภายในพื้นที่ที่จำกัดโดยจะต่างจากบันไดหนีไฟที่ต้องใช้พื้นที่ค่อนข้างมาก เพื่อให้สามารถลงไปที่ด้านล่างของอาคารได้

ลิฟต์เนริโกมีไว้สำหรับใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างเช่น ขณะเกิดไฟไหม้ ทุกคนทราบกันดีว่าเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ การใช้ลิฟต์เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เนื่องจากขณะที่เกิดไฟไหม้นั้นอาจจะทำให้ไฟฟ้าดับ ซึ่งถ้าหากคุณติดอยู่ในลิฟต์คงเป็นเรื่องไม่ดีแน่ ลิฟต์เนริโกจึงได้ออกแบบให้สามารถใช้งานได้ในระหว่างที่ไฟฟ้าดับ

หลักการทำงานของมันคือ เมื่อคุณเข้ายืนบนแท่นขนาด 60 ตารางเซนติเมตร แล้วใช้เท้ากดไปที่ปุ่มที่อยู่ที่พื้น ซึ่งเมื่อกดปุ่มนี้จะใช้น้ำหนักของคุณเองเป็นแรงที่ช่วยให้ลิฟต์เคลื่อนที่ลงและความเร็วจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักและการกดปุ่ม โดยเมื่อลิฟต์เคลื่อนที่ลงมายังชั้นข้างล่างแล้วนั้นและเมื่อคุณก้าวลงจากแท่น จากนั้นระบบจะยกแท่นกลับขึ้นสู่ด้านบนโดยอัตโนมัติ เพื่อพร้อมสำหรับคนต่อไปในการใช้งาน

ระบบนี้มีไว้สำหรับอาคารสูงและใช้พื้นที่ไม่มากนักในการติดตั้ง การออกแบบก็ง่ายพอสำหรับทุกคนที่จะสามารถใช้มัน เด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการก็สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องมีความช่วยเหลือเพิ่มเติม แม้ว่าจะใช้ได้ครั้งละหนึ่งคน แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถมาพร้อมกับเด็กเล็กได้

ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดีโดยหวังว่าในอนาคตจะมีการพัฒนาระบบต่างๆให้มีความปลอดภัยและน่าใช้มากยิ่งขึ้น

อ้างอิง: Startupselfie, Thisisgoodgood, Piximus

One comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *