รู้ป่าว! เพราะอะไรนาฬิกาถึงไม่เป็นเลข 10 แต่กลับเป็นเลข 12 และ 60

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมนาฬิกาถึงไม่ใช้ระบบเลขฐาน 10 เพราะคนเรานั้นค่อนข้างจะคุ้นเคยกับเลข 10 เช่น นิ้วมือหรือนิ้วเท้าก็เป็นเลข 10 แต่กลับไปใช้เลข 12 และเลข 60 มาอยู่ในระบบเวลา

มนุษย์เรานั้นคิดและมีการนับเวลามาหลายพันปีแล้ว ซึ่งในตอนแรกเครื่องบอกเวลาของคนเรานั้นจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทราย น้ำ หรือการใช้ตำแหน่งของดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าเพื่อทำเครื่องหมายเวลาที่ผ่านไป แต่ทุกวันนี้เราใช้นาฬิกาที่ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้บอกเวลา แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เราก็ยังวัดเวลาของเราเทียบกับการหมุนรอบตัวเองของโลกและอ้างอิงกับดวงอาทิตย์

โลกเรานั้นจะหมุนหรือหมุนรอบเส้นสมมติที่ลากขึ้นมาระหว่างขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ โดยเมื่อสถานที่ที่คุณอาศัยอยู่นั้น หันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์และคุณสามารถเห็นแสงของดวงอาทิตย์ได้ แสดงว่านั่นคือ เวลากลางวัน แต่เมื่อสถานที่ที่คุณอาศัยอยู่นั้น หันหน้าออกจากดวงอาทิตย์และมืดมิด แสดงว่านั่นคือ เวลากลางคืน ระยะเวลาที่โลกใช้ในการหมุนหนึ่งรอบเต็มเราเรียกว่า วัน

แต่การใช้หน่วยวันในการนับเวลาอาจจะนานไปหน่อย เราจึงได้แบ่งมันออกเป็นหน่วยย่อยๆ เรียกว่า ชั่วโมง นาที และวินาที

ในอดีตชาวอียิปต์โบราณชอบที่จะนับเลข 12 โดยสันนิษฐานว่าเกิดจากการนับการโคจรของดวงจันทร์ที่ขึ้นเต็มดวงภายในเวลา 1 ปี โดยจะขึ้นทั้งหมด 12 ครั้ง และพวกเขามักจะแบ่งวันออกเป็นสองส่วนเป็นเวลา 12 ชั่วโมงสำหรับกลางวัน และ 12 ชั่วโมงในเวลากลางคืน ดังนั้นหนึ่งวันจึงยาวนานถึง 24 ชั่วโมง แต่ละชั่วโมงใช้เวลาเท่ากัน โดยสามารถแบ่งออกเป็น 60 นาที และแต่ละนาทีสามารถแบ่งออกเป็น 60 วินาที

การแบ่งชั่วโมงออกเป็น 60 นาที และแต่ละนาทีเป็น 60 วินาที นั้นมาจากชาวบาบิโลนที่ใช้ระบบเลขฐาน 60 (Sexagesimal) สำหรับคณิตศาสตร์และดาราศาสตร์ พวกเขาได้ระบบตัวเลขนี้มาจากชาวสุเมเรียนที่ใช้ระบบเลขฐานนี้มาตั้งแต่ 3500 ปีก่อนคริสตกาล โดยการนับข้อนิ้วด้วยนิ้วโป้งมือข้างที่ถนัดซึ่งจะนับนิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย และจะนับได้ทั้งหมด 12 ตามรูป จากนั้นทดไว้ที่มืออีกข้างหนึ่งและนับจากมือที่ถนัดต่อไปเป็น 13-24 และนับไปเรื่อยๆจะได้เลข 60

เหตุผลที่ไม่ใช้เลข 10 อาจจะมาจากตัวเลขที่หารด้วยเลข 10 ลงตัว จะมีเพียงแค่ 3 ตัวเลข คือ 2,5 และ 10 ส่วนเลข 12 จะมีตัวเลขที่หารลงตัวถึง 5 ตัวเลข คือ 2,3,4,6 และ 12 และในเลข 60 นั้นคือ 5คูณ12 ซึ่งมันคือการรวมข้อดีของทั้งเลข 10 และ 12 เข้าไว้ด้วยกัน อันที่จริงทั้ง 12 และ 60 มีคุณสมบัติร่วมกันคือพวกมันมีตัวหารมากกว่าจำนวนใดๆที่เป็นตัวเลขที่น้อยที่สุด

สำหรับนาฬิกาแบบกลไกหรือแบบอะนาล็อกจะใช้เวลา 12 ชั่วโมง และจะถูกทำเป็นวงกลม โดยตัวเลข 12 จะอยู่ด้านบนและตัวเลข 6 จะอยู่ด้านล่างเสมอ ส่วนตัวเลขที่เหลือนั้นจะถูกเว้นระยะห่างเท่าๆกันตามลำดับบนเส้นรอบวงกลมและจะมีตัวชี้สองตัวที่เรียกว่า เข็มสั้นและเข็มยาวจะแสดงชั่วโมงและนาทีตามลำดับ

ในการบอกเวลาแบบ 12 ชั่วโมง เราจะนับชั่วโมงตั้งแต่ 1 โมงเช้าถึงเที่ยงวัน จากนั้นตั้งแต่ 1 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน เพื่อให้เกิดความสับสนน้อยลง เราจะพูดว่าเวลาเช้าคือ ante meridiem (am) หรือ post meridiem (pm) ซึ่งมาจากคำภาษาละตินที่หมายถึง ‘ก่อนเที่ยงวัน’ และ ‘หลังเที่ยงวัน’

แต่สำหรับในนาฬิกาดิจิตอล เราสามารถนับเวลาได้ตลอด 24 ชั่วโมงในหนึ่งวัน ถ้าเรานับแบบนี้ ชั่วโมงตอนเช้า (am) จะแสดงด้วยตัวเลข 1 ถึง 12 และช่วงบ่าย (pm) จะแสดงด้วยตัวเลข 13-24 ดังนั้น บ่าย 2 โมงก็จะเป็น 14:00 น.

Fun Fact: ไซมอน สตีวิน (Simon Stevin) นักคณิตศาสตร์ได้เคยพยายามแบ่ง 1 วันเป็น 10 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นที่นิยมเพราะต้องแบ่งเวลาเป็นเลขทศนิยมทำให้เกิดความยุ่งยากและไม่ชิน

อ้างอิง: Simplescimum , Theguardian

One comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *