นี่คือที่มาของ “ซานตาคลอส” ที่มาจากบุคคลจริงในประวัติศาสตร์

ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสหลายๆคนอาจจะนึกถึงเทศกาลที่เต็มไปด้วยหิมะและให้-รับของขวัญ และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้สำหรับเด็กๆคือคุณลุงที่สวมชุดและหมวกสีแดงและมอบของขวัญให้กับเด็กดี

รูปที่ 1. ซานตาคลอส (อ้างอิง: Canva)

นี่คือประวัติศาสตร์ของซานตาคลอส (Santa Claus) ที่มาของชื่อซานตาคลอสเป็นรูปแบบภาษาอังกฤษของชื่อนักบุญนิโคลัส ซินเตอร์คลาส (St. Nicholas Sinterklaas) ในภาษาดัตช์ ซึ่งแม้ว่าซานตาคลอสในยุคปัจจุบันจะเกี่ยวข้องกับโลกแห่งจินตนาการ แต่นักบุญนิโคลัสตามประวัติศาสตร์ก็เป็นคนที่เคร่งศาสนาซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการกุศลและความเอื้ออาทร โดยนักบุญนิโคลัสเกิดราวปี ค.ศ. 280 ในเมืองพาทารา (Patara) ในเอเชียไมเนอร์ (Asia Minor) ต่อมาเขาได้เป็นบาทหลวงแห่งไมร่า (Bishop of Myra) ซึ่งในปัจจุบันคือประเทศตุรกี ดูเหมือนว่านักบุญนิโคลัสเสียชีวิตประมาณในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 343 หรือใกล้เคียง

นักบุญนิโคลัสเกิดในศตวรรษที่ 3 จากพ่อแม่คริสเตียนที่ร่ำรวยในเมืองพาทารา เป็นไปได้ว่านิโคลัสและพ่อแม่ของเขาสามารถติดตามมรดกทางวิญญาณของพวกเขาไปถึงอัครสาวกเปาโล (Apostle Paul) ซึ่งแวะที่เมืองปาทาราในการเดินทางเผยแผ่ศาสนาครั้งที่สามของเขาเมื่อ 200 ปีก่อน

ว่ากันว่าพ่อแม่ของนักบุญนิโคลัสเป็นผู้ศรัทธาที่อธิษฐานขอลูกมาเป็นเวลานาน ในที่สุดเมื่อนิโคลัสเกิด พวกเขาได้มอบเขาให้กับพระเจ้า ในฐานะลูกคนเดียว เขาได้รับการเลี้ยงดูด้วยความรักและความเอาใจใส่เป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม เมื่อนักบุญนิโคลัสยังเป็นเด็กหนุ่มได้เกิดโรคระบาดในเมืองของเขา และพ่อแม่ของเขาทั้งคู่ก็เสียชีวิต แม้ว่าการสูญเสียเช่นนี้อาจจะทำให้บางคนหันเหจากพระเจ้า แต่ดูเหมือนว่าจะดึงนักบุญนิโคลัสเข้ามาใกล้เขามากขึ้น การสูญเสียพ่อแม่ของเขาดูเหมือนจะทำให้จิตใจของเด็กชายอ่อนโยนต่อความทุกข์ของผู้อื่น

นักบุญนิโคลัสถูกทิ้งไว้กับมรดกก้อนใหญ่และตัดสินใจว่าเขาจะใช้มันเพื่อเป็นเกียรติแก่พระเจ้า เขาสร้างชื่อเสียงที่ดีจนได้รับเลือกให้เป็นอาร์ชบิชอปแห่งไมร่า (Archbishop of Myra) เมืองท่าทางใต้และตะวันออกของเมืองพาทารา เมื่อตอนที่เขาอายุ 20 ต้นๆ ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่าเขาต้องแสดงให้เห็นถึงสติปัญญาและความเป็นผู้ใหญ่ที่เกินอายุของเขา

รูปที่ 2. นักบุญนิโคลัส ซินเตอร์คลาส (อ้างอิง: Crosswalk)

ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งอาร์คบิชอป การประหัตประหารคริสเตียนเริ่มขึ้นอย่างรุนแรง นักบุญนิโคลัสเกือบจะถูกคุมขังในช่วงเวลานี้และน่าจะถูกทรมานเพราะความเชื่อของเขา การประหัตประหารที่เริ่มขึ้นในรัชสมัยของจักรพรรดิแห่งโรมันไดโอคลีเชียน (Diocletian) ดำเนินต่อไปโดยกาเลเรียส (Galerius) ผู้สืบทอดตำแหน่งของเขาเป็นเวลารวม 8 ปี

ประวัตินักบุญนิโคลัสและวันคริสต์มาสมีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับชีวิตของนักบุญนิโคลัส หลายเรื่องเน้นถึงความเมตตาและความเอื้ออาทรของเขา หลังจากที่เขาเสียชีวิตในวันที่ 6 ธันวาคม ประเพณีการให้ของขวัญก็เริ่มขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา

วันนักบุญนิโคลัสยังคงเป็นวันที่ 6 ธันวาคมในหลายประเทศ แต่ในประเทศอื่นๆ รวมถึงอเมริกา การปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับวันดังกล่าวได้รวมกับวันคริสต์มาส ดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคริสเตียนหลายคนที่วันหยุดฉลองการให้จะรวมเข้ากับการประสูติของพระคริสต์ ซึ่งเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมอบให้กับโลก อย่างไรก็ตาม การรวมตัวครั้งนี้สร้างความสลดใจให้กับผู้นำคริสเตียนหลายคนที่คิดว่านักบุญนิโคลัสเริ่มดึงความสนใจไปจากพระคริสต์มากเกินไป ในเยอรมนี ผู้ปกครองได้รับการสนับสนุนให้สอนลูกๆ ว่าพระคริสต์กุมารเป็นผู้ประทานของขวัญ ชื่อคริส คริงเกิล (Kriss Kringle) เป็นรูปแบบภาษาอังกฤษของชื่อภาษาเยอรมันสำหรับเด็กคริสต์ (Christ Child) ซึ่งในอเมริกาชื่อคริส คริงเกิลถูกนำมาใช้พ้องกับนักบุญนิโคลัส, ซานตาคลอส และแม้แต่ชื่อภาษาอังกฤษคุณพ่อคริสต์มาส (Father Christmas)

ซึ่งในศิลปะสมัยกลาง นักบุญนิโคลัสมักถูกพรรณนาว่าเป็นนักบวชรูปร่างผอมสูง มีหนวดมีเครา แล้วหนวดเคราสีขาวและชุดสีแดงของซานต้านั้นค่อนข้างคล้ายกับเสื้อคลุมของบิชอปที่ซินเตอร์คลาส (Sinterklaas) ที่ชาวดัตช์สวมใส่ แต่รูปร่างหน้าตาที่ท้วมและอวบอ้วนของซานตาคลอสในอเมริกานั้นโดยทั่วไปมีที่มาจากบทกวีในศตวรรษที่ 19 เรื่องสองคืนก่อนวันคริสต์มาส (Twas The Night Before Christmas) และความพยายามในการสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรมากขึ้นของซานต้าและเพื่อเด็กๆ และมีคำพูดในบทกวีคือ ไม่มีอะไรต้องกลัว

รูปที่ 3. ซานตาคลอสแบบเก่าในปี ค.ศ. 1881 (อ้างอิง: Crosswalk)

แม้ว่าซานตาคลอสปัจจุบันจะกลายร่างเป็นบุคคลที่รายล้อมไปด้วยจินตนาการ แต่ภาพลักษณ์ของเขาสามารถช่วยให้เราระลึกถึงนักบุญนิโคลัสตัวจริง ชายผู้อุทิศชีวิตเพื่อรับใช้พระเจ้าและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นทำเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นเกียรติแก่นักบุญนิโคลัสผู้ให้ของขวัญ ชาวคริสต์เริ่มฉลองวันที่ 6 ธันวาคม ด้วยการให้ของขวัญ ประเพณีพัฒนาไปตามกาลเวลา สำหรับเด็กชายและเด็กหญิงที่เป็นเด็กดี นักบุญนิโคลัสจะมาในเสื้อคลุมของบาทหลวงสีแดงและสวมรองเท้าบู๊ตพร้อมของขวัญในคืนวันที่ 5 ธันวาคม ส่วนสำหรับเด็กชายและเด็กหญิงที่ไม่ดีจะต้องเกรงกลัว ในส่วนที่เป็นคาทอลิกส่วนใหญ่ของยุโรป นักบุญนิโคลัสได้กลายเป็นตัวขัดขวางไม่ให้เด็กๆหลงผิด ในเยอรมนี เขามักจะอยู่กับเน็คท์ รูพรีชท์ (Knecht Ruprecht) ซึ่งขู่ว่าจะกินเด็กที่ประพฤติไม่ดี ในสวิตเซอร์แลนด์ นักบุญนิโคลัสขู่ว่าจะเอาเด็กที่ชั่วร้ายใส่กระสอบแล้วพาพวกเขากลับไปที่ป่าดำ ในเนเธอร์แลนด์ ผู้ช่วยของนักบุญนิโคลัสจะมัดพวกเขาไว้ในกระสอบแล้วนำกลับไปสเปน ในบางส่วนของออสเตรีย นักบวชยังแต่งกายด้วยชุดคริสต์มาส เมื่อเวลาผ่านไป นักบุญนิโคลัสกลายเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของประเทศต่างๆ เช่น รัสเซียและกรีซ เมืองต่างๆ เช่น ฟรีบูร์กและมอสโก

ถ้าคุณรักคริสต์มาสด้วยเครื่องประดับของซานตาคลอส ถุงเท้า และของขวัญ ความงดงามของซานตาคลอสคือรากเหง้าของเขามาจากบุคคลในประวัติศาสตร์ นักบุญนิโคลัส ผู้ซึ่งเป็นผู้รับใช้ของพระคริสต์อย่างแท้จริง ข้อเท็จจริงที่ว่าเด็กๆ ชาวอเมริกันถูกรายล้อมไปด้วยรูปซานตาคลอสในช่วงเทศกาลคริสต์มาส หมายความว่ามีโอกาสมากมายที่จะพูดคุยถึงนักบุญนิโคลัสตัวจริง ชายผู้ซึ่งชีวิตที่เป็นแรงบันดาลใจให้เรารับใช้พระเจ้าอย่างเต็มที่มากขึ้นแง่มุมหนึ่งของประวัติศาสตร์เซนต์นิโคลัส

อ้างอิง: Crosswalk

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *