นี่คือบาบิยาจระเข้ที่กิน “มังสวิรัติ”(ข้าว) เป็นอาหาร

ถ้าหากพูดถึงสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ที่ดุร้ายและกินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร เชื่อว่าหลายๆคนคงนึกถึง “จระเข้” สัตว์เลื้อยคลานที่อาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำ แต่ถ้าจะบอกว่ามีจระเข้ที่สามารถอยู่รอดได้โดยการกินมังสวิรัติเป็นอาหาร คงเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ

เมื่อคิดดูแล้ว มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับบางคนที่เคยกินเนื้อสัตว์เป็นประจำ แล้วจะเปลี่ยนมากินอาหารมังสวิรัติอย่างเดียว ทำให้นั่นเป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าจะเชื่อว่าสัตว์ที่กินเนื้อเป็นอาหารและดุร้ายอย่างจระเข้นั้นจะกินแค่พืช นี่คือ จระเข้ที่มีชื่อว่า บาบิยา (Babiya) ที่กินอาหารมังสวิรัติอย่างเดียว ที่อาศัยอยู่ในสระน้ำอนันตปุระ (Ananthapura) ที่มีชื่อเดียวกันกับหมู่บ้าน ที่อยู่ในวัดศรีปัทมนาภะสวามี (The Sri Padmanabha Swamy Temple)  ในเขตกสราโกด (Kasaragod) ในเมืองธีรุวนันทปุรัม (Thiruvananthapuram)

พวกเขาเชื่อว่าบาบิยาเป็นจระเข้ที่เป็นผู้พิทักษ์ของวัด ซึ่งการให้อาหารของวัดนั้นจะให้ทุกวันตอน 8.00 โมงเช้า และหลังจากการสักการะเทพเจ้าในตอนเที่ยง ซึ่งอาหารที่ให้เป็นอาหารมังสวิรัติที่ประกอบไปด้วยข้าวหุงสุกและน้ำตาลโตนด วันละ 1 กิโลกรัม แล้วบาบิยามันไม่ได้รับอาหารจากเนื้อสัตว์ หรือแม้แต่จะกินปลาในสระเลย จันทรา ปรากาช (Chandra Prakash) เจ้าหน้าที่ในวัด กล่าว โดยเขาได้ให้อาหารจระเข้มาเป็นเวลาประมาณ 10 ปีแล้ว

มีตำนานหนึ่งเล่าว่าเมื่อ 70 ปีที่แล้ว ทหารอังกฤษได้ฆ่าจระเข้ที่เป็นผู้พิทักษ์ของวัดและน่าแปลกที่ทหารนั้นได้เสียชีวิตลงเพราะถูกงูกัดในเวลาต่อมา ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเกิดจากความพิโรธของเทพอนันตนาที่ลงโทษในความผิดอันชั่วร้ายของเขา ไม่นานหลังจากนั้นก็มีจระเข้อีกตัวก็ปรากฏตัวขึ้นในสระน้ำแห่งนี้แทนอดีตผู้พิทักษ์ และทุกครั้งที่ตัวหนึ่งตายจะมีตัวอื่นปรากฏขึ้นแทนเสมอ

นั่นคือตำนานของสระอนันตปุรในวัดแห่งนี้เจ้าหน้าที่ดูแลกล่าว และนักบวชในวัดสามารถจะลงเล่นน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ แม้ว่าจะมีจระเข้แหวกว่ายอยู่ในน้ำก็ตาม ตามคำบอกเล่าของนักบวชในวัด บาบิยาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่แต่ในถ้ำและจะออกมาเฉพาะตอนกินอาหารเท่านั้น

ในสมัยดึกดำบรรพมีการค้นพบและชี้ให้เห็นว่า มีจระเข้บางสายพันธุ์ที่สูญพันธ์ไปแล้ว มีทั้งแบบกินพืชอย่างเดียวหรือทั้งกินพืชและสัตว์อย่างอื่นด้วย ซึ่งหลักฐานมาจากการดูฟันของของมัน ที่ตีพิมพ์ในงานวิจัยในวารสารชีววิทยา (Current Biology)

อนิรบัน เชาดูรี (Anirban Chaudhuri) ผู้เชี่ยวชาญด้านจระเข้กล่าวว่า จระเข้เป็นสัตว์ที่ฉลาดมากและพวกมันเป็นนักเอาตัวรอดที่เก่งกาจด้วยเช่นกัน หลังจากดูภาพของบาบิยาแล้ว อนิรบันได้อธิบายว่า นี่คือจระเข้มักเกอร์ (Mugger crocodiles) โดยอาหารตามธรรมชาติของพวกมันส่วนใหญ่เป็นปลาและพวกมันยังกินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เช่น กวาง หมูป่า อนิรบันกล่าว

โดยปกติจระเข้มักจะกินอาหารตามธรรมชาติ ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่าจระเข้ในสระน้ำของวัดแห่งนี้จะกินปลาที่นั่นเป็นหลักและกินข้าวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมปรับสภาพ และเมื่อถูกแย้งว่าไม่มีมนุษย์คนใดถูกจระเข้ทำร้ายภายในวัดแห่งนี้เลย อนิรบันกล่าวว่า จระเข้มีความสามารถในการเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยม ที่จริงแล้วการเลี้ยงจระเข้นั้นง่ายกว่าการเลี้ยงสุนัขมาก เป็นเรื่องปกติอย่างยิ่งที่มันจะสร้างความผูกพันกับบุคคลที่เลี้ยงมัน โดยมันจะโจมตีเมื่อรู้สึกว่าถูกคุกคามเท่านั้น

จิการ์ อุปัทยัย (Jigar Upadhyay) ผู้เชี่ยวชาญด้านจระเข้อีกคนหนึ่งกล่าวว่า จระเข้มักเกอร์เป็นสัตว์ที่ขี้อายมาก พวกมันจะกินอาหารในตอนดึกและในตอนเช้ามืดของวัน บาบิยาน่าจะอิ่มจากปลาหลาหลายชนิดในสระน้ำของวัดแห่งนี้ โดยจระเข้ส่วนใหญ่จะโจมตีก็ต่อเมื่อรังหรือที่อาศัยถูกบุกรุกหรือเมื่อรู้สึกว่าถูกคุกคามและเมื่อคิดว่าเป็นเหยื่อของมัน แต่ก็จะขึ้นอยู่กับขนาดของเหยื่อของมันด้วย จิการ์กล่าว

พฤติกรรมของจระเข้ตัวนี้น่าจะเกิดจากความคุ้นเคย แม้ไม่ได้รับการฝึกฝนก็ไม่โจมตีมนุษย์ ถึงแม้ว่าจระเข้ที่กินมังสวิรัติเป็นอาหารอาจจะเป็นเรื่องที่น่าจะเกินจริง แต่ถ้าสัตว์นั้นไม่ได้รับอันตรายจากมนุษย์ มันก็เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม จิการ์กล่าว

แต่ก็ยังมีผู้เชื่อถือว่าเป็นความศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้า และข้อเท็จจริงที่ว่า บาบิยาไม่เคยโจมตีมนุษย์และไม่เคยมีใครเห็นบาบิยาโจมตีสัตว์หรือนกใดๆเลยนั่นคือเรื่องจริง ดังนั้นคำถามที่ว่าบาบิยามีชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินมังสวิรัติอย่างเดียวนั้นก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่

อ้างอิง: Thenewsminute, Timesofindia

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *