นี่คือ “ปลาออร์ฟิช”(ใบพาย) ปลากระดูกแข็งที่ยาวที่สุดในโลก

เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยเห็นภาพอันโด่งดังที่มีทหารอเมริกันช่วยจับยกปลาที่มีลำตัวยาว จนหลายคนคิดว่าปลาชนิดนี้เป็นพญานาค

รูปที่ 1. ปลาออร์ตัวผู้ขนาด 5.49  เมตร ถูกพบในน่านน้ำนอกเกาะซานตา คาตาลินา ในแคลิฟอร์เนีย (อ้างอิง: Nytimes)

นี่คือปลาออร์ฟิช (Oarfish) โดยพวกมันนั้นมีหลายชื่อไม่ว่าจะเป็นปลาริบบิ้น (Ribbon Fish) ปลาสตรีมเมอร์ (Streamer Fish) ราชาแห่งปลาเฮอริ่ง (King of Herrings) หรือที่คนไทยเรียกว่า ปลาใบพาย ซึ่งเป็นปลาที่ได้รับการบันทึกสถิติโลกของกินเนสส์บุ๊กเวิลด์เรคคอร์ด (Guinness World Records) ว่าเป็นปลากระดูกแข็งที่ยาวที่สุดในโลก นอกจากนี้ หลายคนเรียกพวกมันว่างูทะเลเพราะพวกมันดูคล้ายกันมากเมื่อพวกมันปรากฏตัวใกล้บริเวณผิวน้ำ

ปลาออร์ฟิชเป็นปลาในตระกูลรีฟาเลซิแด (Refalecidae) และยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ราชาแห่งปลาเฮอริ่ง เนื่องจากครีบหลังของพวกมันดูเหมือนมงกุฎ พวกมันมีครีบหลังยาวตลอดความยาวของลำตัวขนาดมหึมา โดยมีหนามเล็กๆอยู่เหนือก้านครีบแต่ละอันกว่า 400 เส้น ครีบเชิงกรานของปลาออร์ฟิชนั้นยาวและมีสีใกล้เคียงกับตัวของมัน โดยปลาเหล่านี้เป็นสายพันธุ์ที่หายากเพราะส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในน้ำทะเลลึก

ปลาออร์ฟิชนั้นมีลักษณะคล้ายพญานาคหรือมังกรเนื่องจากลำตัวยาว นอกจากนี้ พวกมันมีลำตัวที่แบนเรียวยาวผิวเรียบและมีสีเงินสะท้อนแสงและไม่มีเกล็ด โดยครีบบริเวณหัวจะยาวขึ้นจนเป็นหงอนสีแดงสดที่โดดเด่น ซึ่งมีการพัฒนามาเป็นเวลาหลายปีเพื่อทำหน้าที่เป็นกลไกป้องกันตัวจากสัตว์นักล่าและครีบหลังเป็นสีแดง

รูปที่ 2. ภาพทหารอเมริกันจับปลาออร์ฟิชในปี ค.ศ. 1996 (อ้างอิง: Wikimedia)

ร่างกายของพวกมันถูกปกคลุมด้วยรอยหยักและเคลือบด้วยกัวนีน (Guanine) ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยการสร้างของดีเอ็นเอ (DNA) และอาร์เอ็นเอ (RNA) โดยปลาออร์ฟิชไม่มีครีบก้นซึ่งแตกต่างจากปลาส่วนใหญ่ พวกมันมีครีบหลังที่ยาวลงมาตามลำตัวของมันแทนและครีบอกอยู่ที่ส่วนล่างของลำตัว

โดยพวกมันจะขยับครีบเชิงกรานเป็นวงกลม คล้ายกับการพายเรือ จึงเป็นที่มาของชื่อ ซึ่งปลาที่มีลักษณะเฉพาะเหล่านี้ใช้ครีบหลังเพื่อช่วยให้ว่ายน้ำและว่ายในแนวดิ่ง พวกมันจะใช้ครีบหลังที่ยาวเพื่อช่วยในการว่ายน้ำเพื่อค้นหาเหยื่อ แต่ลีลาการว่ายน้ำของพวกมันนั้นไม่ธรรมดาเอาซะเลย พวกมันจะว่ายน้ำในแนวนอนโดยให้ลำตัวอยู่ในท่าเหมือนเสาโดยหันหัวขึ้นและเอาหางลง

ชื่อวิทยาศาสตร์ของปลาออร์ฟิชคือ เรกาเลคัส เกลสเน่ (Regalecus glesne) และประกอบด้วย 3 ชนิด ใน 2 สกุล หนึ่งในสายพันธุ์นี้คือปลาออร์ฟิช ซึ่งปลาออร์ฟิชเป็นปลากระดูกแข็งชนิดหนึ่ง พวกมันมักถูกเปรียบเทียบกับสัตว์ประหลาดเนื่องจากร่างกายที่ยาวและขนาดที่ใหญ่โต ตามที่เคยมีบันทึกไว้ในปี ค.ศ. 1885 คือพบปลาขนาด 7.6 เมตร และมีน้ำหนัก 272 กิโลกรัม และที่นอกชายฝั่งจุดเปมาควิด (Pemaquid Point) ในรัฐเมน (Maine) ประเทศสหรัฐอเมริกา ปลาออร์ฟิชที่พบโดยทีมนักวิทยาศาสตร์จากห้องปฏิบัติการทางทะเลแซนดี้ฮุค (Sandy Hook Marine Laboratory) เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 1963 คาดว่ามีความยาว 15.2 เมตร ถูกบันทึกไว้โดยกินเนสส์บุ๊กเวิลด์เรคคอร์ด หรือรูปถ่ายที่โด่งดังแสดงให้เห็นทหารสหรัฐ ในปี ค.ศ. 1996 และแสดงให้เห็นปลาออร์ฟิชที่พบบนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้กับเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มีความยาว 7 เมตร และหนัก 140 กิโลกรัม แต่พวกเขาคาดว่าปลาออร์ฟิชนั้นสามารถเติบโตได้ยาวถึง 17 เมตร

รูปที่ 3. บริเวณที่พบปลาออร์ฟิช (อ้างอิง: Floridamuseum)

โดยข้อเท็จจริงที่น่าตกใจเกี่ยวกับปลาออร์ฟิชคือ อวัยวะส่วนใหญ่ของพวกมันอยู่ใกล้กับส่วนหัว ดังนั้นถึงแม้ว่าหางที่ยาวของมันจะถูกตัดออก พวกมันก็ยังมีชีวิตอยู่รอดได้ โดยปกติปลาออร์ฟิชจะอาศัยอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของมหาสมุทร แต่บางครั้งเมื่อพวกมันตาย ร่างของพวกมันจะถูกซัดขึ้นฝั่ง โดยเฉพาะหลังจากเกิดพายุรุนแรง

โดยปกติปลาออร์ฟิชนั้นจะอาศัยอยู่ในทะเลน้ำลึกลงไปตั้งแต่ 180 ถึง 900 เมตร และสามารถพบได้ในมหาสมุทรอินเดียตะวันตก, แปซิฟิกตะวันตกเฉียงใต้, แอตแลนติกตะวันออกเฉียงเหนือ, แอตแลนติกกลางตะวันตก, แปซิฟิกกลางตะวันออก, แอตแลนติกตะวันตกเฉียงเหนือ, เมดิเตอร์เรเนียน และทะเลดำ, แปซิฟิกกลางตะวันตก, แอตแลนติกกลางตะวันออก, แอตแลนติกตะวันออกเฉียงใต้, แอตแลนติกตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออก มหาสมุทรอินเดีย

มีการวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมของปลาออร์ฟิชนั้นมีน้อยมาก ในความเป็นจริง นักชีววิทยาทางทะเลไม่ได้บันทึกสัตว์ชนิดนี้ในที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติจนกระทั่งปี ค.ศ. 2010 โดยปลาออร์ฟิชนั้นเป็นสัตว์กินเนื้อ แต่ถึงแม้จะมีขนาดตัวที่ใหญ่ แต่เหยื่อของมันคือสัตว์ทะเลขนาดเล็กเป็นหลัก โดยอาหารหลักของพวกมันคือ คริลล์ (Krill) ที่เป็นกุ้งตัวเล็กๆ อย่างไรก็ตาม พวกมันยังกิน กุ้ง แพลงก์ตอน หมึกขนาดเล็ก แต่น่าเสียดาย เนื่องจากนักวิจัยได้สังเกตตัวอย่างที่มีชีวิตเพียงไม่กี่ตัวอย่างเท่านั้น จึงมีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับพฤติกรรมการล่าของพวกมัน อย่างไรก็ตาม นักวิจัยได้สังเกตการกินอาหารด้วยการดูดเหยื่อเข้าไปขณะอยู่ในน้ำ

แม้ว่าจะไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับปลาทะเลชนิดนี้ แต่พวกมันก็น่าจะตกเป็นเหยื่อของสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่ในมหาสมุทร เช่น ฉลามขาวและวาฬเพชรฆาต แต่ปลาเหล่านี้ไม่รู้จักภัยคุกคาม ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากสาเหตุธรรมชาติหรือการโจมตี และศพมักลอยขึ้นผิวน้ำหรือถูกคลื่นซัดเกยชายหาดและบางครั้งก็ติดอวนประมง อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นน้อยมาก และไม่ส่งผลกระทบต่อจำนวนประชากรโดยรวม และมีความเชื่อโชคลางที่ญี่ปุ่นว่า เมื่อปลาเหล่านี้ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยตื้นที่ชายฝั่ง ถือเป็นสัญญาณของหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้น เช่น สึนามิหรือแผ่นดินไหว ตัวอย่างเช่น ปลาออร์ฟิชตาย 20 ตัว เกยตื้นขึ้นฝั่งก่อนจะเกิดสึนามิที่ญี่ปุ่นตามมาในปี ค.ศ. 2011

ปลาออร์ฟิชเป็นปลาที่ออกไข่และสืบพันธุ์โดยการปล่อยไข่และสเปิร์มของพวกมันลงสู่มหาสมุทร ซึ่งจะวางไข่ในช่วงเดือนกรกฎาคมและธันวาคมเมื่ออุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น โดยจะวางไข่อยู่บนผิวน้ำจนกระทั่งฟักเป็นตัวและกลายเป็นตัวอ่อนภายใน 3 สัปดาห์ โดยตัวอ่อนจะมีครีบยาวที่กระดูกเชิงกรานและครีบหลัง เมื่อโตขึ้น พวกมันจะใช้ชีวิตอย่างสันโดษ ส่วนอายุขัยของพวกมันยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดและไม่มีการประมาณจำนวนประชากรของปลาชนิดนี้ที่แน่นอน เพราะปลาเหล่านี้หายากมาก

ปลาเหล่านี้ไม่มีมูลค่าทางการค้าเนื่องจากตำแหน่งที่อยู่ลึกลงไปในมหาสมุทรและเนื้อของพวกมันคุณภาพต่ำ ซึ่งเป็นเนื้อเจลาตินและถือว่ากินไม่ได้ อย่างไรก็ตาม บางคนคิดว่าพวกมันเป็นปลาเกม และพวกเขาจับพวกมันด้วยตาข่ายล้อม แล้วนำไปขายสดๆในบางพื้นที่ แต่โดยทั่วไปแล้วมนุษย์จะไม่ค่อยสังเกตเห็นพวกมัน เว้นแต่เฉพาะเมื่อว่ายน้ำบนผิวน้ำหรือถูกคลื่นซัดขึ้นมาบนชายฝั่ง

อ้างอิง: A-z-animals, Guinnessworldrecords

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *