อย่าเพิ่งเอาอาหารร้อนๆเข้า “ตู้เย็น”(ทันที) อาหารจะเสียเร็วขึ้น

หลายๆคนคงเคยได้ยินว่าอย่าเพิ่งเอาอาหารที่กำลังร้อนๆอยู่เข้าในตู้เย็นทันที จริงหรือไม่ เพราะอะไร

มันเป็นเรื่องจริงและนี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณถึงต้องรอให้อาหารของคุณเย็นลงจนถึงอุณหภูมิห้องก่อนแล้วค่อยนำไปใส่ในตู้เย็น

โดยส่วนใหญ่คุณมักจะใช้ตู้เย็นในการเก็บรักษาของสดหรืออาหารที่เหลือ ซึ่งในการเก็บไว้ในตู้เย็นนี้มีจุดประสงค์โดยพื้นฐานแล้วเพื่อป้องกันไม่ให้อาหารเกิดการสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ ทำให้อาหารสด ไม่ปนเปื้อนและไม่ให้อาหารเสียเร็วกว่าปกติสามารถุเก็บรักษาให้มีระยะเวลานานขึ้น

ดร.อันจู ซูด (Dr. Anju Sood) นักโภชนาการจากเมืองบังกาลอร์ (Bangalore)  กล่าวว่า  หากคุณนำอาหารที่ร้อนหรือของเหลวร้อนๆเข้าในตู้เย็นทันที คุณอาจจะทำให้อาหารนั้นสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการและทำให้ตู้เย็นของคุณนั้นทำงานหนักขึ้นอีกด้วย แต่สำหรับการใส่อาหารที่ค่อนข้างอุ่นในตู้เย็นนั้นก็ไม่เป็นไรมากนัก เพราะอย่างน้อยคุณก็ได้รอจนทำให้อุณหภูมิอาหารลดลงก่อนที่จะนำไปแช่เย็น

เมล์ ราชพุต (Meher Rajput) นักโภชนาการที่ FITPASS อธิบายว่า อาหารที่ร้อนควรรอจนกระทั่งลดอุณหภูมิจนถึงอุณหภูมิห้อง เพราะถ้าใส่เข้าไปในตู้เย็นขณะที่อาหารร้อนจัด อาจจะทำให้เกิดแบคทีเรียซัลโมเนลลา (Salmonella Bacteria) และทำให้อาหารเสียได้ง่ายในตู้เย็น ซึ่งแบคทีเรียนี้เองจะส่งผลให้เกิดการป่วยมีอาการเป็นไข้ ถ่ายเหลว หรือ อาเจียน โดยอาการอาจปรากฏอยู่นาน 8 ถึง 72 ชั่วโมง นอกจากนี้ การวางอาหารที่ร้อนในตู้เย็นใกล้กับอาหารที่เน่าเสียง่ายอื่นๆ เช่น ไข่ ผัก และเนื้อสัตว์ จะทำให้มีโอกาสที่อาหารเหล่านั้นจะปนเปื้อนสูงเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม คุณก็ไม่ควรรอจนเกินระยะเวลาที่กำหนด โดยอาหารที่ร้อนนั้นไม่ควรวางรอไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง เนื่องจากจะทำให้เกิดแบคทีเรียแบบทวีคูณ ชาลินี มังลานี (Shalini Manglani) ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการจากบังกาลอร์กล่าว

ดร.รูปาลี ดุตตา (Dr.Rupali Dutta) ที่ปรึกษาด้านโภชนาการ อธิบายเสริมว่าเราสามารถทำให้อาหารเย็นเร็วขึ้น โดยการแบ่งอาหารออกเป็นส่วนเล็กๆ เพื่อทำให้เย็นและสามารถแช่แข็งได้เร็วขึ้นทำให้หลีกเลี่ยงการปนเปื้อนได้มากขึ้น และควรจะรักษาความชื้นของอาหารด้วยการใส่ในภาชนะปิดสนิทหรือห่อด้วยกระดาษฟอยล์ อีกทั้งยังป้องกันกลิ่นของอาหารต่างๆอีกด้วย สำหรับอาหารแช่แข็งนั้นสามารถเก็บไว้ได้นานเกือบ 2 ถึง 3 เดือน แต่ก็ต้องตรวจสอบสี กลิ่น และรสชาติของอาหารเพื่อดูว่ากินได้หรือไม่ ดร.รูปาลี กล่าว

และยังมีอีกความเชื่อหนึ่งคือ มันจะส่งผลต่ออุณหภูมิของอาหารที่อยู่รอบๆ แต่สำหรับตู้เย็นรุ่นใหม่นั้นคุณไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรมาก เพราะตู้เย็นมีเทอร์โมสตัท (Thermostat) ที่จะช่วยควบคุมอุณหภูมิและความชื้น อย่างไรก็ตาม หากคุณมีตู้เย็นรุ่นเก่า คุณก็สามารถจัดเก็บอาหารที่ร้อนในภาชนะปิดสนิทก็จะสามารถช่วยได้

เคล็ดลับเพื่อความแน่ใจก่อนนำอาหารที่ร้อนไปแช่เย็น
1.หากคุณต้องใส่อาหารที่ร้อนในตู้เย็น อย่าพยายามใส่อาหารร้อนในภาชนะที่หนาเพราะจะใช้เวลาในการทำความเย็นนานกว่าภาชนะที่ค่อนข้างบางเพื่อให้แช่เย็นได้เร็วขึ้น จากนั้นคุณก็สามารถวางภาชนะที่ค่อนข้างบางเหล่านี้ไว้ในตู้เย็น ซึ่งจะทำให้ระบายความร้อนได้เร็วขึ้นอีกด้วย
2.แบ่งอาหารของคุณเป็นส่วนเล็กๆไว้ในภาชนะขนาดเล็ก
3.คุณสามารถแช่อาหารในน้ำเย็นเพื่อลดอุณหภูมิก่อนนำไปแช่เย็น
4.ให้คุณรอจนกว่าไอน้ำที่ออกมาจากอาหารหมดลงแล้วค่อยนำเข้าตู้เย็น
5.ใช้ภาชนะปิดสนิท เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ความชื้นที่ออกมาจากอาหารจะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักกว่าที่ควรจะเป็น

ตามหลักการทั่วไป ขอแนะนำให้จัดวางภาชนะอย่างเหมาะสมไม่ว่าจะร้อนหรืออุ่น โดยคำนึงถึงช่องว่างระหว่างภาชนะ เพื่อให้แน่ใจว่ามีอากาศถ่ายเทและระบายความร้อนได้ดีที่สุด โดยอย่าทิ้งอาหารไว้นานจนเกิน 2 ชั่วโมง เพราะแบคทีเรียจะเริ่มเติบโตในไม่ช้าหลังจากนั้นและถ้าอาหารมีปริมาณมากควรจะแบ่งอาหารเป็นส่วนๆ เพราะเวลาที่เราต้องการบริโภคจะได้นำเฉพาะส่วนที่ต้องการกินมาอุ่นซ้ำ ซึ่งส่วนที่เหลือจะได้ไม่ปนเปื้อนและสามารถเก็บได้นานขึ้น

อ้างอิง: Food.ndtv

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *