นี่คือ “เสือเขี้ยวดาบ”(มาร์ซูเพียล) ที่มีดวงตาไม่เหมือนนักล่าตัวอื่น

โดยทั่วไปแล้วสัตว์นักล่าส่วนใหญ่มักจะมีตาหันไปทางด้านหน้า แต่ก็มีเสือเขี้ยวดาบชนิดหนึ่งไม่เป็นตามนั้น

รูปที่ 1. มาร์ซูเพียลเซเบอร์ทูธหรือเสือเขี้ยวดาบมาร์ซูเพียล (อ้างอิง: Livescience)

นี่คือมาร์ซูเพียลเซเบอร์ทูธ (Marsupial Sabertooth) หรือเสือเขี้ยวดาบมาร์ซูเพียล สัตว์นักล่าที่มีตาไม่เหมือนนักล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวอื่น แต่มีตาเหมือนกับสัตว์กินพืช เช่น วัวและม้า แต่ก็เป็นนักล่าที่มีประสิทธิภาพ การศึกษาใหม่พบว่าจัดเป็นสัตว์ที่ใกล้ชิดกับสัตว์มีกระเป๋าหน้าท้องตระกูลเมทาเธอเรีย (Metatheria) ซึ่งสัตว์ที่มีกระเป๋าหน้าท้องที่ดุร้ายนี้เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่สูญพันธุ์ไปแล้วจากอเมริกาใต้ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ไทลาคอสมิลัส เอทร็อกซ์ (Thylacosmilus Atrox)

นักวิทยาศาสตร์จากอาร์เจนตินาและสหรัฐอเมริกาได้ตรวจสอบด้วยการสแกนด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) กะโหลกศีรษะของสัตว์นักล่าขนาดใหญ่ 3 ตัว ซึ่งน่าจะมีน้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม และสูญพันธุ์ไปเมื่อประมาณ 3 ล้านปีก่อน โดยทีมงานสังเกตเห็นว่าลักษณะทางกายวิภาคของกะโหลกที่แปลกประหลาดของสัตว์นั้นโดดเด่นเมื่อเทียบกับสัตว์กินเนื้อชนิดอื่นๆ เช่น สุนัขและแมว ซึ่งตาของมันหันไปข้างหน้ามากขึ้นเพื่อช่วยให้พวกมันติดตามเหยื่อ ตามการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารชีววิทยาการสื่อสาร (Communications Biology) เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 2023

รูปที่ 2. กะโหลกศีรษะของมาร์ซูเพียลเซเบอร์ทูธหรือเสือเขี้ยวดาบมาร์ซูเพียล (อ้างอิง: Livescience)

สิ่งที่เราคาดหวังสำหรับสัตว์กินเนื้อก็คือ เบ้าตาของพวกมันมักจะมีวงโคจรมาบรรจบกัน ซึ่งหมายความว่าการมองเห็นของพวกมันจะหันไปทางด้านหน้า ทำให้พวกมันมีการรับรู้เชิงลึกที่ดี ชาร์ลีน เกลลาร์ด (Charlène Gaillard) นักศึกษาที่สถาบันนิโวโลยี, ธารน้ำแข็งวิทยาและวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมของอาร์เจนตินา (Argentine Institute of Nivology, Glaciology, and Environmental Sciences: IANIGLA) ในเมืองเมนโดซา ผู้เขียนการศึกษาวิจัยได้กล่าวว่า เมื่อคุณเป็นนักล่า คุณก็ต้องการที่จะหาเหยื่อของคุณให้แม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ชาร์ลีนกล่าว

ความแม่นยำนี้เกิดขึ้นเมื่อช่องการมองเห็นด้านซ้ายและขวาซ้อนทับกันและส่งข้อมูลไปยังสมอง ทำให้สมองสามารถตีความความลึกและระยะทาง ส่งผลให้มีการมองเห็น 3 มิติ ชาร์ลีนกล่าว

แต่ตำแหน่งตาของเสือเขี้ยวดาบมาร์ซูเพียลที่มีกระเป๋าหน้าท้องนั้นสอดคล้องกับสัตว์กินพืช เช่น วัวและม้า ซึ่งมองเห็นโลกในแบบ 2 มิติ ทำให้นักวิทยาศาสตร์สงสัยว่า สัตว์กินเนื้อชนิดนี้ที่มีอาหารเป็นเนื้อสัตว์อย่างน้อย 70% จะสามารถมองเห็นแบบ 3 มิติได้หรือไม่ หลังจากตรวจสอบการสแกนแล้ว นักวิจัยพบว่าสัตว์ร้ายสามารถชดเชยการวางตาที่แปลกของมันได้โดยการยื่นวงโคจรออกไปด้านนอกและวางพวกมันในแนวตั้ง ซึ่งช่วยให้การมองเห็นของสายตาเหลื่อมกัน 70 องศา ซึ่งคล้ายกับของแมวจากการศึกษา

เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยให้มันเป็นนักล่าที่ประสบความสำเร็จ ชาร์ลีนกล่าว ดังนั้น อะไรที่ทำให้เสือเขี้ยวดาบมาร์ซูเพียลวิวัฒนาการให้มีตาที่ว่องไวเช่นนี้ในตอนแรก นักวิจัยกล่าวว่าทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณฟันเขี้ยวที่ยาวของพวกมัน ซึ่งเติบโตขึ้นเรื่อยๆตลอดชั่วอายุขัยของมันโดยที่รากดันกลับเข้าไปในกะโหลกเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งการเคลื่อนนี้ส่งผลให้ดวงตาที่เบิกกว้างอันเป็นเอกลักษณ์ของสัตว์ เนื่องจากฟันเขี้ยวของมันในกะโหลก ชาร์ลีนกล่าว

รูปที่ 3. มุมมองการมองเห็นเสือเขี้ยวดาบมาร์ซูเพียล แมวเขี้ยวดาบสไมโลดอน สิงโตมาร์ซูเพียล ไทลาซีน ตามลำดับ (อ้างอิง: Nature)

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยังไม่ทราบแน่ชัดว่าพวกมันใช้กระเป๋าหน้าท้องให้ประโยชน์ใดๆระหว่างการล่าหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันไม่มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นที่วิวัฒนาการให้มีลักษณะคล้ายคลึงกัน รวมทั้งจิงโจ้และสัตว์มีกระเป๋าหน้าท้องอื่นๆที่เป็นญาติห่างๆของเสือเขี้ยวดาบมาร์ซูเพียล การมีฟันเขี้ยวขนาดใหญ่เหล่านี้น่าจะมีประโยชน์และการมีฟันเขี้ยวขนาดใหญ่เหล่านี้มีประโยชน์มากกว่าการมีการมองเห็นที่ดีขึ้น ชาร์ลีนกล่าว

อ้างอิง: Livescience, Nature

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *