นี่คือการบุกของฝูง “แมงกระพรุน”(นับพัน) ที่อิสราเอล

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เยรูซาเลม (The Jerusalem Post) มีรายงานว่า เป็นที่น่าตกใจที่พบจุดสีขาวบนทะเลจำนวนมากมายนั่นคือ ฝูงแมงกะพรุน (Jellyfish) ที่มีจำนวนมากมายนับพันๆตัว ซึ่งไม่ใช่แค่บริเวณผิวน้ำเท่านั้น แต่ยังมีอยู่ลึกลงไปที่ใต้น้ำอีกหลายร้อยเมตรในบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Sea) ใกล้กับเมืองไฮฟา (Haifa) ทางตอนเหนือของอิสราเอล (Israel)

โดยเจ้าหน้าที่ของสำนักงานธรรมชาติและอุทยานแห่งชาติอิสราเอล (Nature and Parks Authority: NPA) ได้จับภาพแมงกะพรุนที่ีกำลังบุกรุกเข้ามายังน่านน้ำใกล้เมืองไฮฟา โดยพวกเขาได้ใช้โดรนถ่ายภาพทางอากาศ และยังแนะนำผู้คนไม่ให้ไปว่ายน้ำในบริเวณพื้นที่นี้ เนื่องจากกังวลถึงอาการแพ้พิษของแมงกะพรุนที่จะเกิดขึ้น ซึ่งการที่แมงกะพรุนเพิ่มสูงขึ้นผิดปกตินี้ อาจจะเกิดมาจากการกระทำของมนุษย์ที่รวมถึงมลภาวะและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

แมงกะพรุนเป็นสัตว์ที่พบเห็นได้ทั่วไปนอกชายฝั่งของอิสราเอลในช่วงฤดูร้อน และมีรายงานการบุกรุกของแมงกะพรุนจำนวนมากทั้งในปี ค.ศ. 2015 และ ค.ศ. 2017 โดยแมงกะพรุนหนัง (Rhopilema nomadica) เป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุดในน่านน้ำใกล้เมืองไฮฟา แต่แมงกะพรุนชนิดนี้มีต้นกำเนิดในน่านน้ำเขตร้อนของมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งได้อพยพหนีกระแสน้ำอุ่นมายังบริเวณนี้เป็นประจำทุกปี แต่ปีนี้พบว่าจำนวนของแมงกะพรุนมีมากจนผิดปกติและนักวิทยาศาสตร์สงสัยว่าแมงกะพรุนที่บุกรุกจากมหาสมุทรอินเดียมายังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนั้น ใช้คลองสุเอซ (Suez Canal) ซึ่งเป็นคลองที่ขุดขึ้นในอียิปต์เพื่อที่จะเชื่อมต่อทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับทะเลแดง (Red Sea)

การบุกรุกของแมงกะพรุนจำนวนมากในฤดูร้อนนี้อาจจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อระบบนิเวศทางทะเลใกล้บริเวณชายฝั่งของเมืองไฮฟา รูตี้ ยาเฮล (Ruthy Yahel) นักนิเวศวิทยาทางทะเลของ NPA กล่าว

ซึ่งผลกระทบและความเสียหายมากมายที่เกิดขึ้นจากพวกมันในหลายๆพื้นที่ เช่น การแย่งอาหารและที่อยู่ของปลาในระบบนิเวศ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างการอุดตันของปั๊มน้ำที่โรงงานแยกเกลือออกจากน้ำทะเล การระบายความร้อนของโรงไฟฟ้า ความเสียหายต่อชาวประมง และประชาชนทั่วไปจากการท่องเที่ยวตามชายหาด เนื่องจากเมื่อสัมผัสกับตัวแมงกะพรุนที่มีพิษทำให้ผิวที่โดนสัมผัสเกิดเป็นแผลเผาไหม้และจำไว้ว่า อย่ารักษาอาการของพิษแมงกะพรุนด้วยปัสสาวะเพราะจะทำให้เกิดอาการที่รุนแรงมากขึ้น เบื้องต้นให้เอาหนวดออกด้วยคีมหรือเครื่องมือแทนการใช้มือเปล่า จากนั้นราดด้วยสิ่งที่เป็นกรด เช่น น้ำส้มสายชูลงบนแผล แล้วค่อยไปพบแพทย์

สาเหตุที่เป็นไปได้สำหรับการเพิ่มจำนวนของแมงกะพรุนนั้น อาจจะมาจากมลพิษ ซึ่งแมงกะพรุนพวกนี้แห่กันอพยพเพื่อหนีสิ่งปฏิกูลและการกระจายของขยะมูลฝอยที่ถูกปล่อยลงสู่มหาสมุทร หรือการจับปลามากเกินไปซึ่งเป็นการลดจำนวนประชากรของสัตว์ในทะเลที่เป็นศัตรูกับแมงกะพรุน เช่น ปลาซันฟิช (Sunfish) หรือ เต่าทะเล (Sea Turtles)

อีกสาเหตุหนึ่งจากน่าจะมาจากสภาวะโลกร้อน ซึ่งในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมามักมีฝนตกชุกและหนาวจัดในบางครั้ง ทำให้สารอาหารจำนวนมากจะถูกชะล้างไหลลงสู่ทะเล จึงมีสาหร่าย แพลงก์ตอน ที่เป็นอาหารของแมงกะพรุนมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้ส่งผลต่อการเพิ่มจำนวนและวงจรชีวิตของพวกมัน ดอร์ แองเจิล (Dror Angel) นักนิเวศวิทยาทางทะเลจาก Department of Maritime Civilizations แห่งมหาวิทยาลัยไฮฟากล่าว

อ้างอิง: Livescience

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *