การสำรวจหาแร่ทองคำและอัญมณีส่วนใหญ่นั้นมักจะมาจากการทำเหมืองซึ่งจำเป็นจะต้องใช้เครื่องจักรต่างๆมากมายในการค้นหา แต่นี่คือความบังเอิญในการค้นพบก้อนทองคำที่มีขนาดใหญ่มากจากการใช้เพียงเครื่องตรวจจับโลหะเท่านั้น
รูปที่ 1. เควิน ฮิลเลียร์ ตรงกลางกับก้อนทองคำขนาดใหญ่ที่ถูกเรียกว่า มือแห่งศรัทธา (อ้างอิง: Dunollymuseumsite)
นี่คือก้อนทองคำขนาดใหญ่ที่ถูกเรียกว่า มือแห่งศรัทธา (Hand Of Faith) น้ำหนัก 27.2 กิโลกรัม ขนาดกว้างxยาวxสูง 47×20×9 เซนติเมตร ที่ถูกค้นพบโดยเควิน ฮิลเลียร์ (Kevin Hillier) ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี ค.ศ. 1980 เป็นเวลา 2-3 เดือนที่ยากลำบากสำหรับครอบครัวฮิลเลียร์ที่เดินทางไปทั่วออสเตรเลีย ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ครอบครัวที่มีจำนวนสมาชิก 6 คน ได้ขับรถบัสที่พวกเขาตั้งชื่อว่ากัสไปทั่ว ซึ่งพวกเขามาจากเมืองคินโกเวอร์ (Kingower) ที่อยู่ใกล้เมืองวิกตอเรีย (Victoria)
เช่นเดียวกับในอเมริกา ออสเตรเลียประสบช่วงยุคตื่นทอง ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ในขณะที่มีการค้นพบหินระยิบระยับก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1851 ความเร่งรีบเริ่มต้นด้วยการค้นพบทองคำใกล้เมืองบาทเฮิร์สต์ (Bathurst) ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ภายในเวลาไม่กี่เดือน ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างแห่กันไปที่แห่งนี้เพื่อค้นหาความมั่งคั่ง ภายในเวลาหลายทศวรรษ ประชากรของออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า จากการไหลเข้ามาของผู้แสวงหาทองคำจากทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับอเมริกา ตลาดก็พังทลายลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
เมื่อถึงช่วงเปลี่ยนศตวรรษที่ 20 ทุ่งทองคำถูกทิ้งร้างมากมาย ผู้คนอพยพย้ายไปยังเมืองที่มีความเจริญและทันสมัย อย่างไรก็ตาม หลายปีต่อมา มีรายงานว่ามีผู้โชคดีเจอก้อนทองคำขนาดเล็ก การค้นพบในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ทำให้หลายคนคิดว่าทุ่งนายังมีทองคำเพียงพอที่จะเปลี่ยนโชคชะตาของผู้ค้นพบไปตลอดกาล
รูปที่ 2. เครื่องตรวจจับโลหะและก้อนทองคำขนาดใหญ่ที่ถูกเรียกว่า มือแห่งศรัทธา (อ้างอิง: Dunollymuseumsite)
อาการบาดเจ็บบริเวณหลังจากการทำงานของเควิน แพทย์ได้แนะนำให้เขาเดินให้มากขึ้นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นเควินและบิป ฮิลเลียร์ (Bip Hillier) ภรรยาของเขาจึงได้ทำการเดินเล่นสำรวจในทุ่งทองคำในอดีตด้วยเครื่องตรวจจับโลหะ บิปเล่าถึงการสวดอ้อนวอนให้พวกเขาพบทองคำอยู่ตลอดเวลา เธอคิดว่าคำอธิษฐานของเธอได้รับคำตอบแล้ว เมื่อเควินกลับมาบ้านในคืนหนึ่งพร้อมกับกรวดทองคำก้อนเล็กๆ ซึ่งมันมีราคาพอที่จะซื้อเครื่องตรวจจับโลหะอันที่สอง แต่นี่ไม่ใช่ทองคำที่เปลี่ยนโชคชะตาอย่างแน่นอน แต่ 2-3 คืนต่อมา เควินฝันว่าเห็นก้อนทองคำที่ไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งใหญ่มากจนขุดไม่ได้ เช้าวันรุ่งขึ้น เขาวาดภาพความฝันของเขาลงบนแผ่นกระดาษและให้รัสเซลล์ (Russell) เพื่อนของเขาลงนามเป็นพยาน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญจากการมีทองคำในสมองหรือฝันบอกเหตุ ในวันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 1980 ความฝันก็จะเป็นจริง หลังอาหารกลางวัน เควินได้ลองทดสอบเครื่องตรวจจับโลหะอันใหม่ที่เขาเพิ่งได้มา บิปกล่าวว่าได้ยินเสียงเควินกรีดร้อง เธอจึงรีบวิ่งไปหาเขาและพบว่าสามีของเธอร้องไห้อยู่บนพื้นขณะคุกเข่าอยู่หน้าก้อนทองคำซึ่งไม่สามารถงัดจากพื้นได้โดยตรง
ทำให้พวกเขาเริ่มขุดและขุดจนมาถึงด้านล่าง เมื่อยกขึ้น พวกเขาตระหนักว่าสิ่งที่พวกเขาพบคือประวัติศาสตร์ มันเป็นก้อนทองคำที่ใหญ่ที่สุดที่เคยพบโดยเครื่องตรวจจับโลหะแบบมือถือและใหญ่เป็นอันดับ 2 ที่ค้นพบในออสเตรเลียในศตวรรษที่ 20 ในการสัมภาษณ์ ซึ่งก้อนทองคำดูเหมือนมือที่ให้พร ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งชื่อก้อนทองคำว่า มือแห่งศรัทธา
หลังจากนั้นพวกเขาไม่กล้าบอกใครเลย พวกเขารีบกลับบ้านและแช่ก้อนทองคำลงในอ่างล้างจาน ทุกคนช่วยกันทำความสะอาดด้วยแปรงสีฟัน คืนนั้นครอบครัวทั้งสองนอนหลับในขณะที่ก้อนทองคำนั่งอยู่ในสระตัวเล็กใต้เตียงพ่อแม่ หลังจากถกเถียงกันอยู่ 2-3 วัน ว่าต้องทำอย่างไร พวกเขาจึงตัดสินใจมอบหินก้อนนี้ให้เพื่อนที่ไว้ใจได้เพื่อนำกลับไปเมลเบิร์นเพื่อจัดส่งให้รัฐบาล
รูปที่ 3. ข่าวหนังสือพิมพ์เควินและบิป ฮิลเลียร์ ภรรยาและบริเวณที่ค้นพบ (อ้างอิง: Dunollymuseumsite)
ไม่กี่วันต่อมามีงานแถลงข่าวทางโทรทัศน์ ดิ๊ก ฮาเมอร์ (Dick Hamer) นายกรัฐมนตรีวิคตอเรีย ประกาศถึงการค้นพบครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม พวกฮิลลิเออร์ไม่อยู่ที่นั่น ก้อนทองคำต้องใช้เวลานานหลายเดือนในการขาย ซึ่งบิปกล่าวว่านี่เป็นความผิดของรัฐบาลและทำให้มูลค่าของก้อนทองคำลดลง แต่ในที่สุดในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปี ค.ศ. 1981 ด้วยความช่วยเหลือจากบริษัทโควัชอัญมณีและแร่ธาตุ (Kovac’s Gems & Minerals) ก็ได้ถูกขายให้กับคาสิโนโกลเด้นนักเก็ต (Golden Nugget Casino) ในลาสเวกัสในราคาประมาณ 37 ล้านบาท (1 ล้านดอลลาร์) ในขณะนั้น
หลายปีหลังจากนั้น ทั้งคู่ยังคงเดินสำรวจบนทุ่งนาด้วยเครื่องตรวจจับโลหะของพวกเขาโดยหวังว่าจะพบสิ่งที่พวกเขาอธิบายว่าเป็นสหายของมือแห่งศรัทธา นั่นคือเท้าแห่งศรัทธาแต่พวกเขาก็ไม่เคยพบ เควินเสียชีวิตในปี ค.ศ. 2014 ที่งานศพ เครื่องตรวจจับโลหะดั้งเดิมและก้อนทองคำจำลองขนาดยักษ์ถูกวางไว้ข้างโลงศพของเขา ขี้เถ้าของเขาถูกกระจายไปยังจุดที่เขาค้นพบ ตอนนี้เครื่องตรวจจับโลหะถูกเก็บไว้ในโรงรถของเขา แม้ว่าตอนนี้บิปจะอายุ 70 ปลายๆ และสามีของเธอไม่มีชีวิตอยู่แล้ว แต่เธอก็ยังคิดที่จะกลับไปค้นหา เธอแค่สงสัยว่ายังจะมีอะไรรออยู่อีกหรือไม่
อ้างอิง: Todayifoundout, Feelingvegas
