นี่คือ “ปูลมหรือปูผี”(Ghost Crab) ที่สามารถวิ่งได้เร็วถึง 4.47 เมตรต่อวินาที

โดยปกติแล้วในท้องทะเลนั้นเป็นแหล่งกำเนิดของสิ่งมีชีวิตมากมาย ซึ่งมีทั้งสัตว์น้ำและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่อาศัยอยู่ตามชายหาด

รูปที่ 1. ปูลมหรือปูทรายหรือปูผี (อ้างอิง: Canva)

นี่คือปูลมหรือปูผี (Ghost Crab) ที่มีความสามารถที่เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วอย่างน่าประหลาดใจ ปูลมเป็นสัตว์ที่วิ่งเร็วที่สุดในบรรดาสัตว์จำพวกครัสเตเชีย (Crustaceans) หรือสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่มีเปลือกแข็งหุ้มตัวลำตัวเป็นปล้อง พวกมันสามารถวิ่งได้ความเร็วสูงสุดถึง 4.47 เมตรต่อวินาที ซึ่งพวกมันจะมี 2 ก้าม และ 8 ขา ที่ใช้ในการเดินตามปกติ แต่เมื่อพวกมันต้องการที่จะวิ่งให้เร็วขึ้น พวกมันจะใช้จำนวนขาเดินน้อยลง นั่นคือยิ่งพวกมันใช้ขาน้อยลงเท่าไหร่พวกมันก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น

ปูลมเป็นเพียงสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเท่านั้น แม้ว่าพวกมันจะวางไข่ในน้ำและจำเป็นต้องให้เหงือกเปียก แต่พวกมันจะจมน้ำหากอยู่ในน้ำนานเกินไป โดยพวกมันสามารถสร้างเสียงที่เกิดจากฟองอากาศเสียดสีและกระแทกกัน พวกมันสามารถเปลี่ยนสีเพื่อให้กลมกลืนกับผืนทราย ซึ่งเป็นหนึ่งในการปรับตัวที่ช่วยให้พวกมันหลีกเลี่ยงสัตว์นักล่า แม้ว่าพวกมันจะเป็นปูขนาดเล็ก แต่ตัวอ่อนของพวกมันก็เป็นหนึ่งในตัวอ่อนปูที่ใหญ่ที่สุดในช่วงตัวอ่อนระยะสุดท้าย

ปูลมเป็นสมาชิกของวงศ์ย่อยโอไซโพดิเน (Ocypodinae) ซึ่งอยู่ในวงศ์โอไซโพดิเน โอไซโพด (Ocypodidae Ocypode) ที่มาจากภาษากรีก แปลว่า เท้าว่องไว ซึ่งอธิบายถึงวิธีที่ปูเหล่านี้สามารถวิ่งบนผืนทรายได้อย่างรวดเร็วอย่างน่าประหลาดใจ โดยอนุวงศ์มี 2 สกุล คือ โอไซโพด (Ocypode) และฮอปโลไซโพด (Hoplocypode) ซึ่งระหว่างสองจำพวกนี้มี 21 ชนิด

รูปที่ 2. ปูลมหรือปูทรายหรือปูผีอยู่บริเวณโพรง (อ้างอิง: Canva)

ปูเหล่านี้มีลำตัวเล็กเป็นกล่องมีความยาว 5-7.5 เซนติเมตร มีน้ำหนัก 15–70 กรัม ตัวผู้จะใหญ่กว่าตัวเมีย และสปีชีส์ส่วนใหญ่มีสีเหลืองครีมซีด ยกเว้นสปีชีส์เช่น เกาดีโชดี (Gaudichaudii) พวกมันจะออกล่าในเวลากลางคืน ลักษณะเฉพาะของปูลมมีอยู่ 2 ลักษณะ คือ ทั้งตัวผู้และตัวเมียจะมีก้ามทั้งสองขนาดต่างกัน สิ่งนี้ทำให้พวกมันแตกต่างจากลูกพี่ลูกน้องของพวกมันอย่างปูแส้ ซึ่งก้ามขนาดไม่เท่ากันจะพบเฉพาะในตัวผู้เท่านั้น กรงเล็บของปูลมส่วนใหญ่ยังมีสันที่ช่วยให้ส่งเสียงได้ มีตาที่ใหญ่และยาว บางชนิดก้านตามีเขาหรือมีหนามกั้น พวกมันมีกระจกตาขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ที่ครึ่งล่างของก้านตา และขาที่ใช้เดินจะยาวกว่าก้ามทั้งสอง ทำให้พวกมันสามารถเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและง่ายดายบนหาดทราย โดยพวกมันมีอายุเฉลี่ยประมาณ 3 ปี

ปูลมพบได้ใกล้กับน่านน้ำที่อุ่นทั่วโลก โดยที่อยู่จะขุดโพรงในทรายและโคลนที่พบในโซนระหว่างน้ำขึ้นและน้ำลงบนชายหาดในมหาสมุทรหรือปากแม่น้ำ พวกมันจะอยู่ในโพรงในระหว่างวันและจำศีลในช่วงเดือนที่หนาวเย็น ส่วนใหญ่พบในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ในขณะที่มีไม่กี่ชนิดที่พบในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของอเมริกาเหนือ และตามมหาสมุทรแอตแลนติกตั้งแต่แมสซาชูเซตส์ลงไปจนถึงฟลอริดา และไกลออกไปทางใต้ถึงบราซิล

พวกมันเป็นทั้งผู้ล่าและเหยื่อ แต่ปูลมก็ไม่ได้มีผู้ล่ามากมายนัก เนื่องจากความสามารถในการเปลี่ยนสีแล้ว การดัดแปลงอื่นๆ ที่พัฒนามาเพื่อทั้งการล่าและการหลีกเลี่ยงการโจมตีคือ ความเร็วและวิถีชีวิตกลางคืนของพวกมัน ถึงกระนั้น ปูลมก็ถูกนกชายฝั่งและแรคคูนจับไป ดดยพวกมันจะกินไข่เต่ามะเฟืองและลูกตัวอ่อนซึ่งเป็นปัญหาเนื่องจากเต่ามะเฟืองกำลังใกล้สูญพันธุ์ พวกมันยังกินปูขนาดเล็ก สัตว์ขาปล้องในทะเลอื่นๆและแมลงอีกด้วย นอกจากการล่าอาหารแล้ว ปูลมยังเป็นสัตว์ที่กินของเน่าเสียและกินอาหารในโพรงของมันอีกด้วย

ปูลมสามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี แม้ว่าจะมีบางชนิดที่ตัวเมียจะตกไข่ในต้นฤดูใบไม้ผลิและอีกครั้งในฤดูร้อน พวกมันแตกต่างจากปูชนิดอื่นๆ ตรงที่ตัวเมียสามารถผสมพันธุ์ได้เมื่อกระดองแข็งขึ้นหลังจากลอกคราบ นี่เป็นหนึ่งในการดัดแปลงที่ปูสร้างขึ้นเมื่อกลายเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ท่าทางของตัวผู้จะส่งเสียงเพื่อดึงดูดผู้หญิงและท้าทายตัวผู้อื่นๆ ซึ่งตัวที่แข็งแรงกว่าก็จะผลักมันออกไปให้พ้นทาง

การผสมพันธุ์มักจะเกิดขึ้นใกล้กับโพรงของตัวผู้ สเปิร์มมาในของเหลวจะแข็งตัวและเชื่อมตัวเมียเพื่อให้แน่ใจว่าไข่ของพวกมันจะไม่ได้รับการปฏิสนธิโดยปูคู่แข่ง ตัวเมียสามารถเก็บสเปิร์มได้ระยะหนึ่ง แต่เมื่อไข่ได้รับการปฏิสนธิ ไข่จะโผล่ออกมาและติดอยู่ที่หน้าท้อง โดยไข่มีลักษณะเหมือนผลเบอร์รี่ ซึ่งตัวเมียจะทำให้แน่ใจว่าไข่ได้รับความชุ่มชื้นและบางครั้งอาจจะว่ายน้ำกลับหัวเพื่อจุดประสงค์นี้ เมื่อตัวอ่อนของปูฟักออกมา ตัวเมียจะสลัดมันลงไปในน้ำ ในระยะนี้พวกมันมีขนาดเล็กมากจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของแพลงก์ตอนและถูกพัดพาไปตามกระแสน้ำในมหาสมุทร ซึ่งจำนวนประชากรของปูลมในปี ค.ศ. 2021 นั้นค่อนข้างดีไม่น่าเป็นห่วง แม้ว่าจะจำนวนลดลงเนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและมลพิษ แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ได้มีปัญหา

อ้างอิง: A-z-animals

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *