ในธรรมชาติมีสัตว์มากมายที่มีหลากหลายสีสัน แต่เรามักจะนึกถึงสัตว์จำพวกนกหรือปลา เราแทบไม่เคยนึกถึงหอยทากเลย ในความเป็นจริงเมื่อเรานึกถึงหอยทากมักจะนึกถึงสัตว์สีน้ำตาลที่รบกวนและสร้างความเสียหายให้กับพืชของเราและทิ้งร่องรอยเมือกเล็กๆเหล่านั้นไว้ทุกที่ อย่างไรก็ตาม นี่คือหอยทากที่พบได้เฉพาะในคาบสมุทรมาเลเซียเท่านั้น ที่มีสีสันที่แปลกตา
รูปที่ 1. หอยทากไฟกับโปเกมอนที่ชื่อว่าแม็กคาร์โก้ (อ้างอิง: Boredpanda, Sonicpokemon)
นี่คือหอยทากไฟ (Fire Snail) หรือเป็นที่รู้จักในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า (Platymma Tweediei) เป็นหนึ่งในหอยทากที่หายากที่สุดในโลก ซึ่งพวกมันมีลักษณะเหมือนกับโปเกมอนที่ชื่อว่าแม็กคาร์โก้ (Magcargo) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหอยทาก หอยทากชนิดนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในหุบเขาเทลม (Telom Valley) ในเขตที่ราบสูงคาเมรอน (Cameron Highlands) ของมาเลเซียในปี ค.ศ. 1938 ซึ่งนับตั้งแต่ค้นพบ หอยทากชนิดนี้เคยถูกพบในเทเมงกอร์ (Temenggor) และรัฐกลันตัน (Kelantan) เท่านั้น ไม่เคยพบที่อื่นเลย
จูน กิตติ์ฟุต (Junn Kitt Foot) นักอนุรักษ์จากมหาวิทยาลัยมาเลเซียซาบาห์ (University Malaysia Sabah) เชื่อว่าหอยทากหายากชนิดนี้จะพบได้ภายในรัศมี 100 กิโลเมตร จากที่ราบสูงคาเมรอนเท่านั้น เนื่องจากพวกมันสามารถอยู่รอดได้ในสภาวะบางอย่างเท่านั้น หอยทากเหล่านี้สามารถอาศัยอยู่ในสภาพอากาศที่เย็นและชื้นเท่านั้น โดยเฉพาะในป่าฝนที่มีเมฆมากหรือคลาวด์เรนนิส (Cloud Rainis) ซึ่งเป็นป่าที่อยู่สูงพอสมควร โดยมักจะอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลไม่ต่ำกว่า 1,000 เมตร
รูปที่ 2. บริเวณที่พบหอยทากไฟและป่าฝนในที่ราบสูงคาเมรอน (อ้างอิง: Boredpanda, Therakyatpost)
หอยทากไฟพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในคาบสมุทรมาเลเซีย เป็นที่รู้จักจากเปลือกสีดำที่โดดเด่นและตัวสีแดงสด นั่นคือที่มาของชื่อ หอยทากไฟ เปลือกของหอยทากนี้สามารถเติบโตได้จนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 7 เซนติเมตร หอยทากขึ้นชื่อในเรื่องความเร็วที่ต่ำจนเป็นที่เลื่องลือและบางตัวเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเฉลี่ย 1 มม./วินาที ด้วยลักษณะที่หายากและสวยงามมาก มันจึงกลายเป็นเป้าหมายของนักสะสมหอยทากทั่วโลก
ตามบทความของจูน ระบุว่ามีเหตุผล 2 ประการที่ทำให้หอยทากลดลง อย่างแรกคือมีการตัดไม้ทำลายป่าครั้งใหญ่รอบๆที่ราบสูงคาเมรอนที่อยู่ในมีรัศมี 100 กิโลเมตร และประการที่สองเป็นเพราะนักสะสมหอยทากที่เห็นแก่ตัว ซึ่งน่าเศร้าที่หอยทากเหล่านี้ไม่สามารถอาศัยอยู่นอกป่าฝนที่มีเมฆมากซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของพวกมันได้ เมื่อพวกมันถูกพาออกไปนอกที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ พวกมันจะไม่รอดได้นาน ยิ่งไปกว่านั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะเพาะพันธุ์พวกมันในที่เลี้ยง หมายความว่านักสะสมจะต้องรวบรวมและหาหอยทากใหม่อยู่ตลอดเวลา
รูปที่ 3. หอยทากไฟ (อ้างอิง: Boredpanda)
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าพวกมันเป็นหอยทากที่สวยงาม แต่พวกมันควรจะอยู่ในธรรมชาติมากกว่าที่จะเป็นสัตว์เลี้ยงหรือของสะสมในคอลเลกชั่นส่วนตัวของใครบางคน แน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่ได้หยุดผู้คนจากการทำผิดจรรยาบรรณ และหอยทากไฟค่อนข้างเป็นที่นิยมในหมู่นักสะสมในเยอรมนี รัสเซีย และสหราชอาณาจักร และรวมถึงในมาเลเซียอีกด้วย
อ้างอิง: Theanimalrescuesite
