นี่คือโคเด็กซ์ เลสเตอร์ “สมุดบันทึก” ของเลโอนาร์โด ดาวินชี

ถ้าพูดถึงสมุดบันทึกหรือไดอารี่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วนั้นมักจะเขียนเรื่องราวต่างๆในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับสมุดบันทึกที่ถูกเขียนโดยยอดอัจฉริยะที่เก่งในแทบทุกด้านนั้นแตกต่างออกไป เพราะเขาได้เขียนทฤษฎีและเรื่องราวต่างๆที่เขาสนใจ ซึ่งมีประโยนช์ต่อผู้คนเป็นอย่างมาก

โคเด็กซ์ เลสเตอร์ (Codex Leicester) สมุดบันทึกที่ถูกเขียนโดยเลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) ผู้เป็นอัจฉริยะที่เขียนบันทึกในช่วงปี ค.ศ. 1506 ถึง ค.ศ. 1510 มีจำนวน 72 หน้า ที่ประกอบไปด้วยความคิด ทฤษฎี และการสังเกตต่างๆของโลก เช่น การเคลื่อนที่ของน้ำ ฟอสซิล และความส่องสว่างของดวงจันทร์ รวมทั้งกลศาสตร์ (Mechanics) ไปจนถึงพฤกษศาสตร์ (Botany) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) คณิตศาสตร์ (Mathematics) สถาปัตยกรรม (Architecture) และอื่นๆที่น่าสนใจอีกจำนวนมาก และถูกนำมาเผยแพร่ให้ผู้คนได้เห็นหลังจากที่เขาเสียชีวิตไปแล้วถึง 200 ปี

โดยในสมุดบันทึกนั้นจะมีหลายเรื่อง เช่น การทดลองเกี่ยวกับอัตราส่วนปริมาตรของไอน้ำต่อน้ำ การส่องสว่างของดวงจันทร์ การที่น้ำสามารถขึ้นไปอยู่บนยอดเขาโดยกระบวนการการระเหยของน้ำ แล้วกลายเป็นเมฆจากนั้นจึงกลายเป็นฝนที่ตกลงมาอยู่บนยอดเขา เครื่องมือที่ใช้วัดระยะทาง อุปกรณ์ที่จะทำให้อยู่ใต้น้ำได้เป็นเวลานาน

หรืออีกเรื่องหนึ่งที่เขียนเกี่ยวกับกายวิภาคมนุษย์ (Anatomy) โดยเขาสามารถวาดรูปกล้ามเนื้อและยังอธิบายหลักการทำงานของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของร่างกายอีกด้วย ซึ่งมาจากการผ่าศพมนุษย์จำนวนกว่า 30 ศพ และต้องแอบซ่อนไว้เพราะในตอนนั้นมีกฎของคริสตจักรห้ามไว้ การสังเกตความเร็วของกระแสน้ำและการอธิบายเกี่ยวกับคลื่นและผลกระทบของคลื่น การพูดถึงกล้องส่องดวงจันทร์ซึ่งนั่น ถือว่าเป็นการบันทึกแรกที่เกี่ยวกับกล้องโทรทรรศน์

เลโอนาร์โด ดา วินชี เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1452 ในประเทศอิตาลี ซึ่งเขาเป็นโพลิแมท (Polymath) คือเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในสาขาวิชาต่างๆและมีชื่อเสียงในฐานะจิตรกรและรูปเขียนที่มีชื่อเสียงคงหนีไม่พ้นภาพโมนาลิซา (Mona Lisa) และความเชี่ยวชาญของเขา ยังรวมไปทั้งสถาปัตยกรรม วิทยาศาสตร์ ดนตรี คณิตศาสตร์ กายวิภาคศาสตร์ ธรณีวิทยา พฤกษศาสตร์  วิศวกรรม ดาราศาสตร์ บรรพชีวินวิทยาและประวัติศาสตร์ อีกทั้งเขายังเป็นนักประดิษฐ์ที่เก่งกาจ เขาเสียชีวิตลงตอนอายุ 67 ปี เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1519

ชื่อของสมุดบันทึกโคเด็กซ์ เลสเตอร์ มาจากคำสองคำคือโคเด็กซ์ (Codex) ที่แปลว่าหนังสือโบราณที่เขียนด้วยลายมือ ส่วนคำว่าเลสเตอร์ (Leicester) นั้นมาจากการตั้งชื่อตามเจ้าเดิมโทมัส โค้ก (Thomas Coke) ที่มีตำแหน่งเป็นเอิร์ลแห่งเลสเตอร์ (Earl of Leicester) ที่เป็นขุนนางในเมืองเลสเตอร์ ในประเทศอังกฤษ ในช่วงศตวรรษที่ 18

ในสมุดบันทึกเล่มนี้ถูกเขียนแบบย้อนกลับ (Mirror Writing) โดยเริ่มจากด้านขวาของหน้าแล้วเลื่อนไปทางซ้าย การที่จะอ่านนั้นจำเป็นจะต้องมองผ่านทางกระจกเท่านั้น มีทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับสาเหตุที่เขาทำเช่นนี้ คือเขาถนัดซ้ายและการเขียนในลักษณะนี้จะทำให้ไม่เลอะเทอะหรือไม่ก็เพื่อป้องกันการแอบอ่านก็เป็นได้เพราะเขาเขียนด้วยภาษาอิตาลีโบราณ ซึ่งทำให้เป็นเรื่องยากมากที่จะแปลเนื้อหาที่ถูกบันทึกลงไป

ปัจจุบันสมุดบันทึกโคเด็กซ์ เลสเตอร์ เป็นของบิล เกตส์ (Bill Gates) มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทไมโครซอฟต์ (Microsoft) ซึ่งซื้อมาจากการประมูลที่คริสตีส์ (Christie’s) ในปี ค.ศ. 1994 ในราคา 1,113 ล้านบาท (30.8 ล้านดอลลาร์) หลังจากที่ประมูลไปได้แล้วก็ได้นำไปสแกนเป็นไฟล์ภาพแล้วยังนำไปเป็นภาพสกรีนเซฟเวอร์และภาพหน้าจอของวินโดวส์อีกด้วย และยังได้นำไปจัดแสดงยังเมืองต่างๆในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และที่ต่างๆทั่วโลกอีกด้วย

ซึ่งสมุดบันทึกเล่มนี้เคยเป็นหนังสือที่แพงที่สุดที่ถูกขาย จนกระทั่งปี ค.ศ. 2017 เมื่อศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายซื้อต้นฉบับของเครื่องพิมพ์พระคัมภีร์มอรมอนในราคา 1,264 ล้านบาท (35 ล้านดอลลาร์) เชื่อกันว่าเป็นต้นฉบับที่แพงที่สุดที่เคยขายมา

อ้างอิง: Adamsmith, Nytimes, Businessinsider

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *