นี่คือการเปรียบเทียบไก่จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากถึง 364% ในเวลาเกือบ 50 ปี

ในปัจจุบันอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ที่เราบริโภคมากเป็นอันดับต้นๆของโลก นั่นคือเนื้อไก่ แต่รู้หรือไม่ ไก่ที่ถูกเลี้ยงในอดีตจะมีขนาดที่แตกต่างกันมากเมื่อเทียบกับในปัจจุบันโดยได้มีการเปรียบเทียบน้ำหนัก

รูปที่ 1. เปรียบเทียบขนาดและน้ำหนักของไก่ในปี ค.ศ. 1957 – 2005 ในช่วง 0 – 28 วัน (อ้างอิง: Chickencheck)

นี่คือการเปรียบเทียบน้ำหนักของไก่ในสหรัฐอเมริกาในช่วงปี ค.ศ. 1957 ลูกไก่จะมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 34 กรัม และมีโอกาสเสี่ยงที่จะตายได้ง่ายในช่วง 7 วันแรก เมื่อถูกเลี้ยงไป 56 วัน ไก่จะมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 905 กรัม ในขณะที่ลูกไก่ในปี ค.ศ. 2005 ลูกไก่จะมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 44 กรัม ซึ่งมีการได้รับวัคซีนและถูกเลี้ยงดูตรวจสุขภาพโดยสัตวแพทย์ เมื่อถูกเลี้ยงไป 56 วัน ไก่จะมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 4202 กรัม ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบแล้วในเวลาเกือบ 50 ปี ไก่จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากถึง 364% เลยทีเดียว

ข้อเท็จจริงที่ว่าไก่ในปัจจุบันมีขนาดใหญ่และโตเร็วกว่าไก่ในอดีตเมื่อหลายปีก่อน เมื่อเปรียบเทียบไก่จากทศวรรษต่างๆ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจดูรุนแรง และมักนำไปสู่คำถามที่ว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก่อให้เกิดความเครียดหรือเป็นอันตรายต่อไก่และมนุษย์หรือไม่

รูปที่ 2. เปรียบเทียบขนาดและน้ำหนักของไก่ในปี ค.ศ. 1957 – 2005 ในช่วง 56 วัน (อ้างอิง: Chickencheck)

ประการแรก สิ่งสำคัญคือต้องระบุว่าไก่ที่ถูกเลี้ยงไม่ได้รับการให้ฮอร์โมนหรือสเตียรอยด์เพิ่มเติมอย่างใดและไม่มีการดัดแปลงพันธุกรรม (No Genetically Modified: GMO) เพราะในความเป็นจริงแล้วมีกฎหมายห้ามไม่ให้ใช้ฮอร์โมนเสริมหรือฮอร์โมนเทียมโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (Food & Drug Administration: FDA) ดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบต่อขนาด สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของไก่ที่คุณเลี้ยง แต่ก็จะมีคำถามว่า ถ้าไก่ไม่ได้เลี้ยงด้วยฮอร์โมนเสริม ทำไมไก่ถึงมีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้น

ไก่ในปัจจุบันมีขนาดใหญ่ขึ้นเกิดจาก การเลี้ยงไก่แบบสมัยใหม่ที่ได้รับการเลี้ยงดูให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีสุขภาพที่ดีขึ้นด้วยการปรับปรุงพันธุ์ โภชนาการ การดูแลสุขภาพโดยสัตวแพทย์ นอกจากการให้อาหารไก่ที่มีสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพแล้ว การใช้วัคซีนและสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นยังช่วยปรับปรุงสุขภาพและอัตราการเติบโตโดยรวมของไก่ที่ดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งการปรับปรุงทั้งหมดเหล่านี้ได้ใช้เวลาช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงไก่ที่มีขนาดที่ใหญ่มากขึ้นและมีสุขภาพดีขึ้นกว่าที่เคยอีกด้วย

เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้วที่เกษตรกรและเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ได้ปรับปรุงสายเลือดพันธุกรรมของไก่ โดยการคัดเลือกไก่ที่แข็งแรงที่สุดเข้าด้วยกันเพื่อให้สามารถผลิตลูกหลานที่แข็งแรงขึ้น กระบวนการผสมพันธุ์แบบดั้งเดิมนี้เป็นหัวใจสำคัญของการเลี้ยงสัตว์และช่วยให้สามารถปรับปรุงขนาด ความแข็งแรง อัตราการเจริญเติบโตและสุขภาพเล็กน้อยในฝูงของแต่ละรุ่น

รูปที่ 3. ตรวจสุขภาพโดยสัตวแพทย์และการเลือกไก่ที่แข็งแรงมาผสมพันธุ์ (อ้างอิง: Chickencheck)

ส่วนที่สำคัญที่สุดของกระบวนการผสมพันธุ์นี้คือการเลือกไก่ที่แข็งแรงที่สุดมาผสมพันธุ์ โดยเกษตรกรจะต้องอาศัยข้อมูลจากการสังเกต เช่น น้ำหนัก ความรู้สึก และลักษณะที่ปรากฏ เพื่อกำหนดสุขภาพและประสิทธิภาพของไก่ เทคนิคเหล่านี้มักมีข้อผิดพลาด เนื่องจากมีลักษณะบางอย่างที่ไม่สามารถวัดได้โดยง่ายจากการสังเกตด้วยประสาทสัมผัส เช่น สุขภาพของหัวใจ ความอ่อนแอต่อโรค ความหนาแน่นของกระดูก สุขภาพข้อต่อ และภาวะทางพันธุกรรมที่อาจจะเกิดขึ้นอื่นๆ

ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ทำงานร่วมกับเกษตรกรและสัตวแพทย์เพื่อค้นหาไก่ที่ดีที่สุดที่จะผสมพันธุ์ ปรับปรุงทั้งสุขภาพและขนาดของไก่รุ่นต่อไป ความก้าวหน้าอันน่าทึ่งนี้ได้ทำแผนที่ดีเอ็นเอและเครื่องมือวินิจฉัยสุขภาพสัตว์ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมาทำให้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ในปัจจุบันมีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับสุขภาพและพันธุกรรมของไก่ที่อยู่ในความดูแลของพวกเขา เพื่อให้สามารถระบุได้ว่าไก่ชนิดใดที่จะผสมพันธุ์ได้ดีที่สุด

อ้างอิง: Chickencheck

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *