ธรรมชาติเรานั้นมีทั้งผู้ล่าและผู้ถูกล่า แต่ในบางครั้งผู้ล่าก็กลับกลายเป็นผู้ถูกล่า
รูปที่ 1. ฉลามเอบิสุที่ถูกกัดกินตับ (อ้างอิง: Livescience)
เมื่อวาฬเพชฌฆาต (killer Whale) คู่หนึ่งเริ่มปฏิบัติการไล่ล่าและฆ่าฉลามเอบิสุ (Broadnose Sevengill Sharks) มากถึง 19 ตัว ภายในวันเดียว โดยวาฬเพชฌฆาตได้กินเพียงแค่ตับและทิ้งซากลำตัวของฉลามเอบิสุให้มาเกยตื้นนอกชายฝั่งเพิร์ลลีบีช หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ริมใต้สุดของแอฟริกาใต้ ซึ่งการสังหารที่ยุ่งเหยิงดึงดูดความสนใจของ อลิสัน ค็อก (Alison Kock) นักชีววิทยาทางทะเลของอุทยานแห่งชาติแอฟริกาใต้ ซึ่งได้ทวีตเกี่ยวกับคู่หูวาฬเพชฌฆาตตัวผู้ ที่รู้จักกันในชื่อ พอร์ท (Port) และสตาร์บอร์ด (Starboard) ที่เกิดบ้าคลั่งในการไล่ล่าให้อาหารในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2023 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คู่หูวาฬเพชฌฆาตได้สร้างความหายนะในบริเวณนี้ โดยในปี ค.ศ. 2017 ทั้งคู่ฆ่าฉลามขาวอย่างน้อย 8 ตัว และพวกมันยังแค่กินตับของฉลามเพียงอย่างเดียวและยังปล่อยให้ร่างกายที่เหลือเน่าเปื่อย
รูปที่ 2. คู่หูวาฬเพชฌฆาตพอร์ทและสตาร์บอร์ด (อ้างอิง: Livescience)
แล้วอะไรที่ทำให้ตับฉลามที่ดูเหมือนจะกระตุ้นความอยากอาหารของวาฬเพชฌฆาตกระหายเลือดเหล่านี้ โดยอลิสันอธิบายว่า พวกมันน่าจะเรียนรู้จากประสบการณ์ในตอนแรกเมื่อออกล่าสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งหมายความว่าเมื่อวาฬเพชฌฆาตรู้ตำแหน่งตับของฉลาม พวกมันจะจดจำมันไปตลอดกาลและกลายเป็นนักล่าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ตับฉลามยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีไขมันและวิตามินในปริมาณมาก อลิสันกล่าว วาฬเพชฌฆาตอาจจะเรียนรู้ว่าการบริโภคตับของฉลามนั้นให้พลังงานและสารอาหารสูง ตับของฉลามมีขนาดใหญ่และลอยตัวได้ และตับของพวกมันจะลอยขึ้นสู่ผิวน้ำเมื่อฉลามถูกฆ่า สิ่งนี้ทำให้วาฬเพชฌฆาตมองเห็นและเข้าถึงได้ง่าย เมื่อเทียบกับอวัยวะอื่นๆที่อาจจะจมลงไปด้านล่างหรือค้นหาได้ยากขึ้น
คล้ายกับแท็กทีมมวยปล้ำ โดยวาฬเพชฌฆาตมักจะออกล่าเป็นกลุ่มหรือเป็นคู่เพื่อต้อนให้ฉลามจนมุม นี่เป็นสิ่งสำคัญเพราะสิ่งนี้ทำให้พวกมันได้เปรียบเหนือเหยื่อ อลิสันกล่าวว่า วาฬเพชรฆาตตัวหนึ่งอาจจะทำให้ฉลามหันเหความสนใจในขณะที่อีกตัวหนึ่งเข้ามาเพื่อโจมตีและฆ่า อลิสันกล่าว โดยกลยุทธ์การล่านี้ต้องใช้สติปัญญาสูงและความร่วมมือทางสังคมซึ่งกันและกัน ซึ่งวาฬเพชฌฆาตอาจจะใช้หางขนาดใหญ่ตบและทำให้ฉลามไร้ความสามารถ หรือพลิกพวกมันเพื่อทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้
รูปที่ 3. ฉลามเอบิสุ (อ้างอิง: Montereybayaquarium)
อลิสันกล่าวว่าพฤติกรรมแบบนี้ได้รับการบันทึกไว้ทั่วโลก รวมทั้งในอเมริกาใต้ อเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้เองที่การโจมตีเหล่านี้กลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นในหมู่ฉลามเอบิสุและฉลามขาวในแอฟริกาใต้ และความจริงที่ว่าฉลามจำนวนมากเสียชีวิตในวันเดียวทำให้เกิดความกังวล นี่เป็นจำนวนที่มากสำหรับการล่าเพียงวันเดียว อลิสันกล่าว อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่จำนวนของฉลามเอบิสุที่ถูกฆ่า แต่อยู่ที่การตอบสนองของฉลามต่อความเสี่ยงจากการถูกไล่ล่า โดยการออกจากพื้นที่ทำให้บางครั้งเกิดการละทิ้งแหล่งที่อยู่ ซึ่งการไม่มีผู้ล่าเหล่านี้อาจจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบนิเวศในท้องถิ่น
อ้างอิง: Livescience
